ศาล ยกคำร้องดีเอสไอ ไม่ถอนประกัน ‘ชัยวัฒน์’ คำร้องไม่มีน้ำหนักพอให้รับฟังว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับคดี

          ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งยกคำร้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากกรณีที่นายชัยวัฒน์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 ร่วมกับพวกที่เป็นผู้ต้องหาอีก 3 คน ฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำร้องของผู้ร้องไม่มีน้ำหนักพอให้รับฟังได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 จะไปยุ่งเกี่ยวกับคดี จึงไม่มีเหตุอันควรให้เพิกถอนการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 พิจารณายกคำร้อง

          ระหว่างพิจารณาคดี องค์คณะผู้พิพากษาได้ให้คู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงคำร้อง โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แถลงสรุปว่านายชัยวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทำนองว่าดีเอสไอสร้างพยานหลักฐานเท็จและการได้มาซึ่งพยานหลักฐานก็ไม่ตรงตามจริง ที่สำคัญยังให้สัมภาษณ์ว่าจะไปสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่เป็นที่พบศพนายพอละจี จึงมองว่าการจะเข้าไปสาบานจะกระทบต่อพยานในพื้นที่ที่จะให้ปากคำกับดีเอสไอ ทั้งพฤติการณ์การให้สัมภาษณ์ทั้งหมดล้วนเป็นการเข้าไปยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน ส่งผลต่อรูปคดี และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีร้ายแรง จึงต้องการให้เพิกถอนการประกันตัว ดีเอสไอ ยังแถลงต่อว่า หากจากนี้ไม่ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์(อีเอ็ม) กับผู้ต้องหาทั้ง 4 จะรู้ได้อย่างไรว่าทั้งหมดจะไม่เข้าไปที่เกิดเหตุ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าขณะนี้นายชัยวัฒน์ ดำรงตำแหน่งใดในชุดพญาเสือหรือไม่ เพราะชุดนี้อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวในที่เกิดเหตุได้

          ด้านคำร้องคัดค้านของนายชัยวัฒน์ มีการชี้แจงว่าการให้สัมภาษณ์ของตัวเองเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต และไม่มีผู้ต้องหาคนใดเข้าไปในที่เกิดเหตุ พร้อมยื่นคำร้องว่าจากนี้ตัวเองจะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและเข้าไปในที่เกิดเหตุ ส่วนการดำรงตำแหน่งชุดพญาเสือตอนนี้เป็นที่ปรึกษา แต่ไม่มีอำนาจจับกุมผู้ใด และสัปดาห์หน้าตัวเองก็จะย้ายไปเป็นผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปัตตานีแล้ว ยืนยันว่าทั้งตำแหน่งตอนนี้และตำแหน่งใหม่ไม่มีบทบาทต่อการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ

          หลังคดีเสร็จสิ้น นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความของนายชัยวัฒน์ ระบุว่า วันนี้เป็นการทำตามสิทธิ์กฎหมาย พอใจกับผลและเคารพการสอบสวนของดีเอสไอ ส่วนแนวทางคดีจากนี้ต้องรอดูสำนวนการส่งฟ้องก่อน แต่เตรียมการสู้คดีไว้แล้ว ด้านนายชัยวัฒน์ ระบุว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดรายงานตัวอีกครั้งวันที่ 6 ธันวาคม และจะทำงานให้ดีที่สุดในตำแหน่งใหม่