ปคบ.ตั้งข้อหา ผตห.นำเข้าสินค้าที่มีสารกัญชา ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ยาเสพติด ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          การขยายผลจับกุมเยลลี่และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผสมกัญชาของกลางกว่า 1,500 ชิ้น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการกองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เปิดเผยว่า จากข่าวเรื่องเยลลี่กัญชา อย.และปคบ. ร่วมกันขยายผลสืบสวนพบว่ามีการลักลอบขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทางออนไลน์จึงทำการล่อซื้อ จับกุมผู้ต้องหาได้หนึ่งคนที่หมู่บ้านปาจารีย์ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเยลลี่ผสมกัญชา อาหารเสริมผสมกัญชา น้ำมันที่มีสาร CBD ซึ่งเป็นสารอยู่ในกัญชา รวมถึงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชา และบุหรี่ไฟฟ้า รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

          จากการสอบสวน ผู้ต้องหา รับสารภาพว่านำเข้าสินค้าทางออนไลน์จากสหรัฐฯ และส่งมาที่บริษัทชิปปิ้ง ผู้ต้องหาขายสินค้าผ่านทางเว็บไซด์มากว่า 2 ปี รายได้บางเดือนเป็นหลักล้าน เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนปคม. ดำเนินการ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา คือ นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ยาเสพติด ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้จำหน่ายหรือครอบครองจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 10,000 บาท  ผลิตภัณฑ์ที่ถูกยึดจะส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจวิเคราะห์หาสาร THC  และ CDB เพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้ง

          นพ.ไพศาล ย้ำว่า ปัจจุบัน ประเทศไทย ยังจัดกัญชาอยู่ในยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ห้ามนำเข้า ผลิต จำหน่ายครอบครองหรือส่งต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่สามารถซื้อขายผ่านทางออนไลน์ ประเทศไทยอนุญาตให้ใช้กัญชาเฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น จากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลจับกุมอย่างต่อเนื่องรวมถึงเข้มงวดในมาตรการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาทั้งการสั่งซื้อทางออนไลน์ หรือผู้โดยสารนำติดตัวเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะต้องตรวจสอบจากกรมศุลกากร หรือ ด่านอย.ก่อน พร้อมเตือนผู้บริโภคอย่าสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่ามีส่วนผสมของกัญชาเข้ามาในประเทศไทยอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ผู้บริโภคสามารถอ่านรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่อาจมีส่วนประกอบของกัญชาบนฉลาก เช่น ที่มีคำว่า THC  CDB และ Cannabis

         ส่วนอีกคดี พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์  เปิดเผยว่า ปคบ.การขยายผลจับกุมการลักลอบจำหน่ายยาชุดลดความอ้วนที่มีสารไซบูทรามีน ทำให้เกิดอาการ ความดันโลหิตสูงหัวใจเต้นเร็ว ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและอาจเสียชีวิตได้  สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดราชบุรี ผู้ต้องหาคนดังกล่าว อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีเรื่องการลักลอบจำหน่ายยาชุดลดความอ้วนอยู่แล้ว และได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดี แต่กลับมากระทำความผิดซ้ำ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต  ขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยามี ขายยาชุด และหากตรวจพบไซบูทรามีน ผู้ผลิตนำเข้าหรือส่งออกมีโทษจำคุก 5-20 ปีปรับ 500,000-2,000,000 ล้านบาทและผู้ขายมีโทษจำคุก 4 ถึง 20 ปีปรับตั้งแต่ 400,000 -2,000,000 ล้านบาท