ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 ตามที่พบว่ามีการโอนเช็คเข้าบัญชีนายพานทองแท้ จำนวน 10 ล้านบาท จากอดีตผู้บริหารกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ที่ได้รับอนุมัติเงินกู้จากบอร์ดธนาคารกรุงไทย ในช่วงนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบิดาของนายพานทองแท้เป็นนายกรัฐมนตรี
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของอัยการที่เป็นโจทก์ผู้ฟ้องคดียังไม่มีน้ำหนักพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงและรู้ถึงที่มาของเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่โอนเข้าบัญชีของจำเลยว่ามาจากการทุจริตในคดีปล่อยกู้ให้เครือกฤษดามหานครของธนาคารกรุงไทยของนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร ทั้งขณะที่รับโอน จำเลยมีรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้วถึง 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเงิน 10 ล้านบาท แล้วคิดเป็นร้อยละ 0.0025 เท่านั้น ประกอบกับโจทก์นำสืบได้ว่าขณะรับโอนหุ้นจำเลยมีความสนิทกับครอบครัวของนายวิชัย แต่ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้มากกว่านั้นและหลังจากที่รับฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้นนายพานทองแท้ ได้กล่าวขอบคุณทุกกำลังใจ
...