วิริยะประกันภัย ระบุ ธุรกิจมีการแข่งขันสูงขึ้น ต้องเน้นปรับเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสม

          เข้าใกล้ปีใหม่ โค้งสุดท้ายของตลาดประกันภัยรถยนต์ ยิ่งเพิ่มการแข่งขันกันมากขึ้น นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อต้นปีตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2562 ธุรกิจจะเติบโตได้ประมาณร้อยละ 5 แต่ผ่านไป 9 เดือนคือถึงเดือนกันยายน โตแค่ร้อยละ 3.43 ปัจจัยสำคัญคือการที่ลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แม้จะมีการปรับเงื่อนไข แต่กำลังซื้อก็ยังคงน้อย รวมถึงธุรกิจยานยนต์ช่วงนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้รถป้ายแดงที่ต้องประกันภัยชั้น 1 ขายยากขึ้น ส่วนลูกค้าเก่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะมียอดการต่ออายุอยู่ที่ร้อยละ 70 แต่ส่วนตัวยังไม่พอใจ และต้องรอลุ้นยอดจำหน่ายรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งหากยอดจองรถป้ายแดงเพิ่มขึ้น จาก 1 ใน 4 ที่สามารถปิดยอดได้ในปีนี้ คาดหวังว่าจะโตถึงร้อยละ 4 เบี้ยประกันภัยรับตรงจะเพิ่มขึ้นถึง 30,000 ล้านบาท จากยอดขณะนี้ 29,000 ล้านบาท ตัวแปรทั้งหมดเกิดจากต้องเสียค่าขาดประโยชน์เพิ่มขึ้นจากฐานอยู่ที่ร้อยละ 60 แต่ปีนี้เพิ่มเป็นร้อยละ 62 เนื่องจากเบี้ยประกันภัยเท่าเดิม แต่ค่าซ่อมบำรุงเพิ่มสูงขึ้น

          อย่างไรก็ตามในปีหน้าจะมีข่าวดีเรื่องค่าสินไหมประกันภัยที่จะต้องจ่ายตามหน้าตาราง ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.ล่าสุดจ่ายที่ 700,000 บาท บวก พ.ร.บ. รถยนต์อีก 300,000 บาท ซึ่งจะเริ่มใช้ปีหน้า

         ซึ่งจะส่งผลให้เบี้ยประกันปรับขึ้นถึงร้อยละ 2 วิริยะประกันภัยจึงต้องปรับเบี้ยให้อยู่ในเกณฑ์สมเหตุสมผล ไม่ปรับทั้งกระดาน โดยวางเป้าหมายไว้ว่า จะปรับเฉพาะรถกลุ่มเสี่ยงอุบัติเหตุ เช่น รถยนต์ซิตี้คาร์ วัยรุ่นอายุ 20 ปีไม่เกิน 30 ปี 

...