นายกฯ ประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ
ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ (ASEAN-Republic of Korea Commemorative Summit) ครั้งที่ 3 และการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือ ลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-Republic of Korea Summit) ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน ที่นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นการประชุมในโอกาสการครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี
โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามในบันทึกความตกลงระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี จากนั้นจะเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม ASEAN-ROK CEO Summit โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงแสดงความยินดี และจะเข้าร่วมการประชุม 2019 ASEAN-ROK Culture Innovation Summit ในช่วงบ่าย และเยี่ยมชมนิทรรศการในงาน ASEAN-ROK Smart City Fair จากนั้นในช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีและภริยาจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำรับรอง ASEAN-ROK Welcoming Dinner
รองนายกฯประชุมปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ
ส่วนที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการรายงานผลการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศของธนาคารโลก (Doing Business) โดยในการประกาศผลการจัดอันดับ ความยาก – ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก Doing Business 2020 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 190 ประเทศ เป็นอันดับที่ดีขึ้นจากเมื่อปีก่อน 6 อันดับ โดยมีด้านที่ติดอันดับ TOP 10 ของโลก 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย อยู่ในอันดับที่ 3 และด้านการขอใช้ไฟฟ้า อยู่ในอันดับที่ 6 ของโลก สำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้รวบรวมแผนการดำเนินงาน ผลักดันการดำเนินการตามข้อเสนอของธนาคารโลก
ประชุมวุฒิสภา มีกระทู้ถามเรื่องปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า และการบริหารจัดการศึกษาในภูมิภาค
ในวันนี้มีการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) โดยมีกระทู้ถามที่เป็นหนังสือ 3 เรื่องคือ ปัญหาการบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัด พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม เป็นผู้ตั้งถาม ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่เลื่อนมาจากการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน, กระทู้ถาม เรื่อง การจัดการปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย นายอำพล จินดาวัฒนะ เป็นผู้ตั้งถาม ถามนายกรัฐมนตรี, และกระทู้ถาม เรื่อง นโยบายการปฏิรูประบบการบริหารจัดการศึกษาในภูมิภาค นายตวง อันทะไชย เป็นผู้ตั้งถาม ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ส่วนกระทู้ถามด้วยวาจา คือปัญหาการบริหารงานการศึกษาและการขาดแคลนผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน เป็นผู้ตั้งถาม ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เลื่อนมาจากการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562
เคาะแล้ว 6 กมธ.แก้รธน.สัดส่วนรัฐบาล
ความคืบหน้าการพิจารณาบุคคลมาทำหน้าที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีจำนวน 6 คน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คณะกรรมาธิการครบ 6 คนแล้วและจะนำเข้ารายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ส่วนรายชื่อของ
กรรมาธิการฯในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ จะมีการส่งรายชื่อมาให้ในวันนี้ จากนั้นจะนำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และรายงานให้ที่ประชุมครม.รับทราบในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) จากนั้น ก็จะเสนอญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร (27 พ.ย.) เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ป.ป.ช.เปิดสัญญาหุ้น ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’
ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเปิดเผยสำเนาสัญญาการจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สาธารณชนทราบ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 ที่ห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นในบริษัทจำกัด หรือมหาชน เกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ในบริษัท หากต้องการได้ประโยชน์จากหุ้นในส่วนที่เกินร้อยละ 5 จะต้องโอนหุ้นในส่วนที่เกินให้นิติบุคคล เช่น กองทุน เป็นผู้จัดการแทน ซึ่งนายอนุทิน แจ้งความประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการถือหุ้นในบริษัทเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงโอนหุ้นให้กับนิติบุคคล ดังนั้นนิติบุคคลที่รับโอนหุ้นของนายอนุทินก็ต้องแจ้งเรื่องการรับโอนหุ้นให้ ป.ป.ช. ทราบ เพื่อเปิดเผยสำเนาของสัญญาให้ประชาชนทราบ
‘พานทองแท้ ชินวัตร’ ฟังคำตัดสินคดีกรุงไทยวันนี้
วันนี้เวลา 10.00 น.ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร อายุ 40 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 กรณีที่นายพานทองแท้ รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่งมีการกล่าวหาว่าเงินนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว
...