ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปปูซาน ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 และการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงระหว่างวันที่ 24 - 27 พฤศจิกายนนี้ ที่นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี โดยการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี จะแบ่งออกเป็น 2  ส่วนได้แก่ การประชุมเต็มคณะ และการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีอย่างไม่เป็นทางการในช่วงอาหารกลางวัน (Lunch Retreat) โดยจะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจและมีความห่วงกังวล

          ส่วนการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 1 (1st Mekong-ROK Summit) เป็นความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-ROK) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน

          นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมคู่ขนาน 5 โครงการอาทิ สมาร์ทซิตี้ และสตาร์ทอัพ รวมถึงพบหารือทวิภาคีกับ ประธานาธิบดีมุน แจอิน และร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามในบันทึกความตกลงระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี

ครม.เศรษฐกิจหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี

          ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจำเป็นจะต้องพิจารณาในกรอบกว้าง นอกเหนือจากกิจกรรมที่มีอยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อเดินหน้าไปทั้งการสร้างความเข้มแข็ง การดูแลผู้มีรายได้น้อย หรือผู้มีรายได้ปานกลางและต้องทำในทุกมิติ

          นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ เปิดเผยว่า จะมีการประเมินภาพรวมทางเศรษฐกิจของปีนี้ โดยวิเคราะห์จากรายงานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าด้วย

สภาฯ ถกญัตติตั้งกมธ.แก้รธน. 27 พ.ย.

          ในวันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติทั่วไปที่ค้างอยู่ตั้งแต่สมัยประชุมที่แล้ว ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรคาดว่า ในการประชุมวันพุธหน้า (27 พ.ย.) จะสามารถพิจารณาญัตติด่วน ขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

          ส่วนกรณีความขัดแย้งภายในของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร นายชวนกล่าวว่า มีความขัดแย้งเพียง 1 หรือ 2 คณะเท่านั้น ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันว่ามีปัญหาความขัดแย้งในเรื่องใด หากเป็นเรื่องงานก็ทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็คงจะยากหน่อย เห็นว่าทุกปัญหาควรทำความเข้าใจกันเอง เพื่อไม่ให้ชาวบ้านรู้สึกเบื่อหน่ายกับภาพความขัดแย้งที่ออกมา

ปธน.สหรัฐฯยังไม่ลงนามกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกง

          กรณีที่รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกง และเสนอประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเพื่อลงนามและบังคับใช้เป็นกฎหมาย ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ยังไม่แสดงท่าทีว่าประธานาธิบดีจะลงนามรับรองกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากเขาใช้อำนาจยับยั้ง ก็เป็นไปได้ที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้เสียง 2 ใน 3 เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้

          ขณะที่สถานการณ์ที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค หรือ โพลียู ตำรวจปราบจลาจลยังคงตรึงกำลังอยู่รอบมหาวิทยาลัยเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ผู้ประท้วงที่เหลืออยู่ไม่ถึง 100 คน ยอมมอบตัว แต่ผู้ประท้วงระบุว่า ที่ยังไม่ยอมมอบตัวก็เพราะการมอบตัวเป็นเรื่องของผู้ที่กระทำผิด แต่พวกเขาไม่ได้กระทำผิด จึงไม่ขอมอบตัว

อินเดียจับนักบินปลอม สารภาพทำบัตรปลอมในไทย

          ตำรวจอินเดียควบคุมตัวนายราจาน มาห์บูบานี อายุ 48 ปี ที่แต่งกายเหมือนกับนักบินของสายการบินลุฟท์ฮันซาของเยอรมนี โดยมีเจตนาจะได้รับสิทธิพิเศษของความเป็นลูกเรือ ผ่านด่านความปลอดภัย รวมถึงอัพเกรดที่นั่งของสายการบินต่างๆ ซึ่งเขาเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ในกรุงนิวเดลี ซึ่งในเวลานั้นเขาสวมเครื่องแบบนักบิน และยืนอยู่บริเวณประตูขาออกของเทอมินัล 3 เพื่อที่จะขึ้นเครื่องของสายการบินแอร์ เอเชียจากนิวเดลีไปกัลกัตตา

          ทั้งนี้ การจับกุมมีขึ้นหลังจากที่สายการบินแอร์เอเชียสอบถามข้อมูลไปยังลุฟท์ฮันซา เพื่อขอให้ยืนยันตัวตน แต่ไม่พบข้อมูล

          นายราจาน ยอมรับว่ากระทำความผิดจริง และเคยถ่ายคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการบินลงในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และทำบัตรปลอมจากประเทศไทย โดยหากถูกตัดสินความผิดจริง มีโทษทั้งถูกปรับหรือจำคุก 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

....

ภาพจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล