ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562

22 พฤศจิกายน 2562, 08:15น.


ก.พลังงานเตรียมลดภาษีน้ำมันของขวัญปีใหม่



          นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปี 2562 เป็นปีที่สำคัญที่ต้องรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอไปมากกว่านี้ และต้องมีการทำงานควบคู่กันทั้งระบบเศรษฐกิจและการปฏิรูป ขณะนี้ปัจจัยที่กระทบต่อเศรษฐกิจไทย นอกจากการส่งออกแล้ว ยังเป็นเรื่องของการเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นตัว



          นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม  เปิดเผยว่าที่ประชุม (21 พ.ย.) ได้หารือถึงแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วยราคาหน้าโรงกลั่น ภาษีสรรพสามิต ค่าการตลาด เบื้องต้นมีข้อสรุปร่วมกันจะตั้งคณะทำงานย่อย เพื่อหารือราคาหน้าโรงกลั่นวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ส่วนจะนำไปสู่การลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศได้หรือไม่ ต้องหาข้อยุติร่วมกัน



          น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้แทนภาคประชาชนในคณะทำงาน กล่าวว่า แนวทางที่ภาคประชาชนเสนอคือการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยเฉพาะดีเซล ปัจจุบันประมาณ 6 บาทต่อลิตรให้เหลือเพียง 3 บาทต่อลิตร



ส่งออกตุลาคมติดลบร้อยละ 4.5



          ที่กระทรวงพาณิชย์ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า เดือนตุลาคม 2562 ไทยมีการส่งออกมีมูลค่า 20,757.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 4.54 การนำเข้ามีมูลค่า 20,251.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 7.57 ทำให้เกินดุลการค้า 506.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ 10 เดือนแรก ปี 2562 ไทยมีการส่งออกรวม 207,329.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 2.35 การนำเข้ามีมูลค่า 199,441.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 4.09 และได้เกินดุลการค้า 7,887.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ



          กระทรวงพาณิชย์ ยังคงตัวเลขเป้าหมายการส่งออกทั้งปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 3 แม้ว่าภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐจะปรับลดตัวเลขเป็นติดลบร้อยละ 1-2 แล้ว



พาณิชย์ชี้ทำเอฟทีเอ อียูหนุนศก.



          นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยเรื่อง "ผลกระทบจากการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป" ที่ได้ร่วมมือกับสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (ไอเอฟดี) ทำการศึกษา โดยพบว่าการทำเอฟทีเอไทย-อียู โดยการลดภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการของทั้งสองฝ่าย จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.63 อัตราเงินเฟ้อลดลงร้อยละ 0.41 การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.43 การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.42 การลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 ตลอดจนตัวเลขด้านเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น สวัสดิการสังคม การบริโภคครัวเรือนเพิ่มขึ้นก็จะเพิ่มขึ้น และจำนวนคนจนลดลง โดยการส่งออก สาขาที่คาดว่าไทยจะได้ประโยชน์ เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ เคมีภัณฑ์ ยาง และพลาสติก เป็นต้น ส่วนสาขาที่คาดว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากการนำเข้า และต้องเตรียมการปรับตัว เช่น น้ำตาล ผัก ผลไม้ และเมล็ดถั่ว กับยังมีความเป็นกังวลของภาคประชาสังคม ในเรื่องสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค และพันธุ์พืช ที่จะต้องเตรียมการรับมือด้วย



          ขณะนี้การศึกษาได้ดำเนินมาจนถึงช่วงสุดท้าย คือ การนำผลการศึกษา ผนวกกับผลการรับฟังความเห็น ผู้มีส่วนได้เสียจากภาคส่วนต่างๆ เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาตัดสินใจเรื่องการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูต่อไป



คมนาคมย้ำไม่ลดคน ขสมก.



          เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้หารือร่วมกับ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เกี่ยวกับความกังวลของพนักงาน ขสมก. โดยกระทรวงยืนยันว่า ไม่มีการแปรรูปองค์กร และไม่มีการบังคับให้ต้องหยุดเดินรถ เพื่อเปิดทางให้เอกชนเข้ามาบริหาร เพราะ ขสมก.เป็นระบบขนส่งมวลชนหลักที่รัฐบาลต้องดูแลและสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการเดินทาง ทั้งจะปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการจัดซื้อรถเมล์ใหม่ 3,000 คัน



          ส่วนกรณีที่ สหภาพแรงงานฯ ค้านการลดค่าโดยสารรถเมล์ เพราะเป็นภาระหนี้สินขององค์กรนั้น ทางกระทรวงคมนาคมยินดีรับข้อเสนอ แต่มีการทำข้อตกลงเรื่องโปรโมชั่นค่าโดยสารรถเมล์ ด้วยการออก โปรโมชั่นตั๋ววัน (One Day Pass) ของรถเมล์ ราคา 30 บาท สามารถใช้บริการได้ทั้งวันกี่เที่ยวก็ได้



ดีอี เผย 3 เดือนจับเฟคนิวส์แล้ว 7 ราย



          น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยผลการทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน มีจำนวน 7 ราย โดยรายล่าสุดเป็นผู้ต้องหาแฮกเฟซบุ๊ก หลอกยืมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่าความเสียหายกว่า 34 ล้านบาท



ศาลจังหวัดมหาสารคามออกหมายจับนันกิ่งเพชร



          กรณีเยาวชนหญิงอายุ 15 ปี ที่จังหวัดนครราชสีมา ตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกผู้อ้างตัวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ทำกระทง ซึ่งนำไปสู่การเปิดโปงขบวนการกรรโชกทรัพย์ มีการแจ้งความเอาผิดในหลายจังหวัด



          ศาลจังหวัดมหาสารคาม ออกหมายจับนายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร กับนายพิพล โตตันติกุล ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตามที่มีผู้เสียหาย 3 ราย ร้องเรียน



          แต่ที่จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า มีผู้เสียหายหลายคน ส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกิดขึ้นนานแล้ว พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม โดยกรณีของเยาวชนอายุ 15 ปี พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครราชสีมาแล้ว แต่ศาลพิจารณายกคำร้อง เพราะหลักฐานยังไม่เพียงพอ 



...

ข่าวทั้งหมด

X