ความเสียหายเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนในอู่รถประจำทางร่วมบริการสาย 17 ซอยบางแค 6 เมื่อช่วงประมาณ 03.00น. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายวิชา เกิดแก่น อายุ 60 ปี น.ส.บุญมา ไทยประเสริฐ อายุ 45 ปี และ ด.ช.พีรวุฒิ แสงแก้ว อายุ 8 เดือน บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ ครึ่งปูน สองชั้น มีทั้งหมด 8 ห้อง ได้รับความเสียหายทั้งหลัง นอกจากนี้ ยังพบว่ารถเมล์สาย17 ของผู้เสียชีวิตที่มาจอดอยู่ข้างบ้าน เสียหายเช่นกัน นายประยูร ครองยศ รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งนางพวงเพ็ญ ชื่นค้า ผู้อำนวยเขตบางแค แสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสีย สำนักงานเขตได้เข้าไปช่วยเหลือทั้งหมดแล้ว ทั้งเรื่องการจัดที่พักชั่วคราวให้ แต่ส่วนใหญ่เจ้าของอู่รถได้จัดหาที่พักใหม่ให้แล้ว
สำหรับการเยียวยาทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้ความเสียหาย นายประยูร ระบุว่า สามารถนำเอกสารไปยื่นที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ในส่วนของสำนักงานเขตบางแค ก่อนหน้านี้มีการแก้ไขระเบียบใหม่ เดิมเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ10,000 บาทเป็น25,000บาท,ค่าเช่าบ้านเดือนละ1,500 บาท จำนวน 2 เดือน เป็น 3,000 บาท 2เดือน,ค่าประกอบอาชีพจาก10,000บาทเป็น11,000บาท ถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นกรณีแรกที่ได้รับเงินเยียวยาระบบใหม่ โดยแต่ละครั้งไม่มีใครอยากให้เกิดการสูญเสีย อย่างเช่นกรณีนี้ทราบว่า มีการใช้โซ่คล้องประตูเพื่อล็อคบ้าน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแม้ว่าจะมีการตะโกนเรียกกันแต่ก็เป็นอุปสรรคในการเข้าไปช่วยเหลือและการออกมาจากที่เกิดเหตุ หลังจากนี้จะต้องประชาสัมพันธ์กับประชาชนระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องการทำประตูเหล็กดัด การล่ามโซ่ด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นางพวงเพ็ญ ระบุว่า จากที่ได้รับรายงานคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญ ขณะนี้ปิดกั้นไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่
ด้านพ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผู้กำกับการสน.เพชรเกษม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์เพื่อนำมาประกอบสำนวน ส่วนพยานแวดล้อมคือบุคคลที่อยู่ภายในบ้านทั้งหมดได้สอบปากไปบ้างแล้ว
นายธีรพงษ์ ภาษาดี ช่างซ่อมประจำอู่รถประจำทางสาย17 เล่าว่า ห้องพักของตนอยู่บ้านอีกหลัง ซึ่งติดกับบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ ตอนเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวาย ตื่นขึ้นมาพบว่าไฟลุกลามจะถึงห้องพักตนแล้ว จึงรับคว้าสิ่งของจำเป็นออกมา ในตอนนั้นไม่ทราบเหมือนกันว่ามีใครติดอยู่หรือไม่ เพราะตกใจมาก