ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น. วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562

20 พฤศจิกายน 2562, 07:21น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น. วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562



จัดกำลังตำรวจ6,500นายอารักขาสมเด็จพระสันตะปาปา ด้านนายกรัฐมนตรี-ครม.รับเสด็จทำเนียบ21พ.ย.



           การเตรียมความพร้อมด้านการจราจร ในระหว่างที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายนนี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าในวันนี้ จะมีการปิดการจราจร ช่วงเวลา 12.30-13.00 น.จะใช้เส้นทางกองบิน บน.6 ดอนเมือง ทางด่วนโทลเวย์ดอนเมือง ทางด่วนดินแดง ทางด่วนพระราม 4(2) ถนนพระราม 4 และถนนสาทร ส่วนในวันที่ 23 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นการเสด็จกลับ เพื่อไปเยือนญี่ปุ่นต่อ จะมีการปิดจราจร ในเวลา 8.30-9.00 น.จะใช้เส้นทาง สาทร-พระราม4-ทางด่วนพระราม 4-ทางด่วนดินแดง โทลล์เวย์ บน.6 ดอนเมือง



           จากนั้น ในระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จเยี่ยมสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด 8 ที่หมาย โดยเป็นพื้นที่ในจังหวัดนครปฐม 1 ที่หมายและกรุงเทพมหานคร 7 ที่หมาย ได้แก่ทำเนียบรัฐบาล โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ พระที่นั่งอัมพรสถาน วัดราชบพิตร สนามศุภชลาศัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาสนวิหาร อัสสัมชัญ ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง จึงขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพระราม 1  พญาไท และบรรทัดทอง ซึ่งเป็นถนนโดยรอบสนามกีฬาแห่งชาติ  ที่จะมีประชาชนกว่า 50,000 คนเข้าร่วมรับเสด็จ พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนที่จะเข้ารอรับเสด็จเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าแทน เพื่อความสะดวกในการสัญจร และมีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครปฐมประมาณ 6,500 นาย



รอฟังศาลรธน.วินิจฉัย ธนาธร ถือหุ้นสื่อ พ้นส.ส.หรือไม่



          ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดฟังคำวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.หรือไม่ ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 14.00 น.



          ทั้งนี้ หากศาลวินิจฉัยว่านายธนาธร ไม่มีความผิด ก็สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ได้ตามปกติ แต่หากศาลมีคำวินิจฉัยชี้ว่ามีความผิดความเป็นส.ส.จะสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(7) ต้องพ้นจากการเป็นส.ส.ทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายธนาธร มีความผิด ก็อาจส่งผลให้มีการดำเนินคดีอาญาโดยในมาตรา 151 นี้ ได้กำหนดโทษไว้ว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี โดย กกต.ต้องเสนอเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไป



            ก่อนหน้านี้ สำนักงานกกต.ได้ออกเอกสารชี้แจง กรณีที่นายธนาธร ยื่นฟ้องกกต. 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยกล่าวหาว่ารวบรัดรีบส่งคดีนายธนาธร ถือหุ้นสื่อให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยที่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ยังดำเนินการสอบสวนไม่เสร็จสิ้นว่า กรณีที่กกต.ส่งให้ศาลวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลง เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ ไม่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใด และไม่ได้อยู่ในนิยามของ "กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง" ตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561



          การดำเนินการจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าว ดังนั้นเมื่อกกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของส.ส.คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลง ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ทันที ซึ่งกรณีของ นายธนาธร เป็นกรณีความปรากฏต่อกกต. ว่าสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ. 5 ) มีชื่อนายธนาธร เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส. อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลง



           นอกจากนั้น ที่ประชุมกกต.ยังได้พิจารณาสำนวนการสืบสวน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธรได้ให้พรรคอนาคตใหม่(อนค.) กู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปี จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป



ตั้งกก.สอบพ.ต.อ.ยิงปืนขึ้นฟ้า ไล่จนท.กู้ภัย-ยึดกล้อง อ้างระงับเหตุวิวาทเก๋งเฉี่ยวชนจยย.บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น



           หลังร.ต.อ. เฉลิมพันธ์ ภูสมหมาย รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับจยย.และมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ เหตุเกิดบนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ถนนพระราม 4 ขาเข้า แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จากการตรวจสอบที่รถเบนซ์ สีดำ พบหมวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 ใบวางอยู่ที่หลังรถ และพบบัตรห้อยคอ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในรถ ระบุชื่อ พ.ต.อ. เกียรติศักดิ์ สระทองออย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐาน ก่อนจะประสานเจ้าของรถเบนซ์มาสอบปากคำต่อไป



           พ.ต.ท.ณรงค์ ยิ้มปั่น รอง ผกก.สอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า เจ้าของรถเบนซ์ที่ได้เข้ามาแสดงตัว กับพนักงานสอบสวนว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้สอบปากคำ เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 4 ปลอก หลังจากนี้ก็จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำอีกครั้ง



          รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนสน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับการยืนยันว่าบุคคลที่ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและข่มขู่ผู้อยู่ในที่เกิดเหตุคือ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผบก.ภ. จว.นครสวรรค์ ช่วยราชการ บก.สส.บช.ภ.2 ได้รายงานข้อเท็จจริงกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดแล้ว ยืนยันว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงออกไป เพื่อระงับเหตุ แต่คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไม่เชื่อว่าเป็นตำรวจ และยังพยายามมีเรื่องทำร้ายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จนได้รับบาดเจ็บ จึงเป็นเหตุให้จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า เพื่อระงับเหตุดังกล่าว



          ส่วนกรณีอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูแจ้งว่ามีการนำกล้องวงจรปิดหน้ารถออกไปนั้น พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ได้ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่า เพียงต้องการขอความร่วมมือไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นฐานะที่เป็นตำรวจที่เข้าไประงับเหตุเท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่กู้ภัย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้แจ้งความเอาผิดผู้ขับขี่รถยนต์ คู่กรณีในข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว



ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เตรียมสู้ศึกซีเกมส์ต่อ หลังเสมอเวียดนาม 0:0 รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก



           ในวันนี้ อากิระ นิชิโนะ จะเดินทางกลับถึงไทย หลังเสร็จสิ้นภารกิจนำทีมชาติไทย เล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี นัดที่ 5 กับเวียดนาม จากนั้นวันที่ 21 พ.ย. จะไปคุมทีมซีเกมส์ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ต่อทันที สำหรับซีเกมส์ 2019 จัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ ไทยจะประเดิมสนามพบอินโดนีเซีย วันที่ 26 พ.ย.นี้ เวลา 15.00 น. โดยมี 4 นักเตะจากชุดใหญ่ ที่อยู่ในข่ายติดทีมซีเกมส์คือ ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เอกนิษฐ์ ปัญญา โดยจะมีการเตะอุ่นเครื่องกับทีมสโมสรอีก 1 นัดที่ไทย วันที่ 21 พ.ย. ก่อนเดินทาง 23 พ.ย.



           นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป้าหมายของเราคือต้องได้เหรียญทอง 

ข่าวทั้งหมด

X