ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2562

สถานการณ์ในฮ่องกงยังตึงเครียด

          สถานการณ์ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดจากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลในมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค หรือ โพลียู และอีกหลายพื้นที่ แต่จุดใหญ่คือที่โพลียู เมื่อผู้ประท้วงวางเพลิงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้ตำรวจปราบจลาจลเข้ามายึดคืนพื้นที่ และตำรวจเตือนว่าอาจต้องใช้กระสุนจริงตอบโต้ผู้ประท้วงที่ใช้ระเบิดเพลิงและธนู ทั้งประกาศให้พื้นที่ของโพลียูเป็นพื้นที่การก่อจลาจล ซึ่งผู้ก่อเหตุจลาจลในฮ่องกงมีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี โดยยังมีสถานการณ์ตลอดเมื่อคืนนี้ต่อเนื่องมาจนถึงเช้านี้ โดยสื่อต่างประเทศหลายแห่งตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจไม่ได้มีเจตนาที่จะบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยเพื่อยึดคืนพื้นที่ แต่ใช้การปิดล้อมแล้วยิงแก๊สน้ำตาสลับกับการข่มขู่เพื่อให้ผู้ประท้วงออกมา ซึ่งบางคนก็จะถูกจับกุม แต่ก็มีหลายคนที่สามารถออกมาได้โดยไม่ถูกจับกุม นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงอีกหลายร้อยคนที่อยู่ด้านนอกเพื่อกดดันการทำหน้าที่ของตำรวจ

          กระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า ไม่ควรประเมินเจตนารมณ์ในการปกป้องอธิปไตยของจีนต่ำเกินไป และหากมองข้อเท็จจริงโดยปราศจากอคติ จะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงไม่ใช่แค่การประท้วง แต่เป็นการก่อความรุนแรงของกลุ่มอาชญากรต่อพลเรือน

สายการบินเอเชียลดเที่ยวบินไปฮ่องกง

          สายการบินต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ประกาศลดเที่ยวบินไปฮ่องกงในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากการชุมนุมประท้วงที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน และการเดินทาง โดยรูท แอร์ไลน์ เว็บไซต์ให้บริการด้านข้อมูลตารางการบิน ระบุว่า ขณะนี้ มีสายการบินจำนวนมากประกาศยกเลิก เที่ยวบินบางส่วนในเส้นทางไป-กลับฮ่องกง คือ สายการบินการูด้า ของอินโดนีเซีย สายการบินสไปซ์เจ็ต ของอินเดีย สายการบิน แอร์เอเชีย ของมาเลเซีย  สายการบินเชจู แอร์ สายการบินจินแอร์ ของเกาหลีใต้ สายการบิน ฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ และสายการบินเซบู แปซิฟิค ของฟิลิปปินส์

          โดยสายการบินฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ เปลี่ยนมาใช้เครื่องบินที่มีขนาดเล็กลงในเส้นทางไป-กลับฮ่องกง เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่เลื่อนการเดินทาง ทั้งลดเที่ยวบินมะนิลา-ฮ่องกงจาก 5 เที่ยวบินเหลือเพียง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เช่นเดียวกับสายการบิน เซบู แปซิฟิค ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของฟิลิปปินส์ ก็ลดเที่ยวบินจากเมืองเซบูและคลาร์คไปยังฮ่องกงระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคม

           ขณะที่สายการบินจีนหลายแห่ง รวมทั้ง แอร์ไชน่า ไชน่าอีสเทิร์น แอร์ไลน์ และไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ได้ยื่นคำร้องขอลดจำนวนเที่ยวบินไปฮ่องกงตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม

เกิดเหตุกราดยิงที่ห้างวอลมาร์ทในสหรัฐ ส่งผลเสียชีวิต 3 ราย

          ตำรวจรัฐโอกลาโฮมารายงานเหตุยิงกันที่ห้างสรรพสินค้าวอลมาร์ท (Walmart) ในเมืองดันแคน รัฐโอกลาโฮมา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายรวมทั้งตัวมือปืน โดยพบร่างผู้เสียชีวิต 2 คนอยู่ในรถยนต์ และพบคนที่ 3 ในบริเวณลานจอดรถ

          เมื่อเดือนสิงหาคม เกิดเหตุมือปืนคนหนึ่งยิงกราดผู้คนในห้างวอลมาร์ท ที่เมืองเอล ปาโซ รัฐเท็กซัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน ซึ่งคาดว่าเป็นการก่อเหตุด้วยเหตุผลด้านความเกลียดชังทางเชื้อชาติ

          และเมื่อต้นเดือนกันยายน วอลมาร์ทได้ประกาศระงับการขายกระสุนปืนและปืนพก และขอให้ลูกค้าอย่าพกอาวุธปืนเข้าไปภายในห้าง แม้ว่าจะสามารถทำได้ตามกฎหมายของแต่ละรัฐก็ตาม ขณะที่องค์กรต่างๆ กดดันให้วอลมาร์ทยกเลิกการขายอาวุธ และปืนในร้าน หลังจากเกิดเหตุกราดยิงหลายครั้งในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

ปธน.สหรัฐฯ หารือปธ.เฟดที่ทำเนียบขาว

          ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึง การขยายตัว, แนวโน้มการจ้างงาน และเงินเฟ้อ โดยมีนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เข้าร่วมในการหารือ โดยนายพาวเวลได้แสดงความเห็นที่สอดคล้องต่อแถลงการณ์ที่กล่าวต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ก่อน รวมถึงการยืนยันกับประธานาธิบดีว่า การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจ และจะกำหนดนโยบายเพื่อสนับสนุนการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และเสถียรภาพของราคา โดยจะตัดสินใจอย่างระมัดระวัง อย่างไร้อคติ และปลอดจากปัจจัยทางการเมือง

          ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า การหารือกับนายพาวเวลเป็นไปด้วยดี โดยมีการหารือเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย, การใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ, ภาวะเงินเฟ้อต่ำ, การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน, การแข็งค่าของดอลลาร์ และผลกระทบต่อภาคการผลิต, การค้ากับจีนและสหภาพยุโรป รวมทั้งประเด็นอื่นๆ

สหรัฐฯต่อใบอนุญาตหัวเว่ยอีก 90 วัน

          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อนุมัติต่อใบอนุญาตให้บริษัทอเมริกันสามารถทำธุรกิจกับหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนต่ออีก 90 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นยังคงสามารถให้บริการเครือข่ายสื่อสารในพื้นที่ชนบทได้ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารห้ามหัวเว่ยใช้เครือข่ายโทรคมนาคมของสหรัฐฯ จากนั้นในเดือนสิงหาคมกระทรวงพาณิชย์ต่อใบอนุญาตรอบแรก และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2

ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-กดดันตลาดหุ้น/ราคาน้ำมันในตลาดโลก

          สัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังมีผลต่อน้ำมันในตลาดโลกและตลาดหุ้นสหรัฐฯ

          ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.33 จุด ปิดที่ 28,036.22 จุด

          เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.57 จุด ปิดที่ 3,122.03 จุด

          แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.11 จุด ปิดที่ 8,549.94 จุด

          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 67 เซนต์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 86 เซนต์ ปิดที่ 62.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

..