ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562

13 พฤศจิกายน 2562, 08:55น.


เช้านี้ มี 15 เขต ค่า PM 2.5 ระดับเกินมาตรฐาน



          กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  พบว่าเช้านี้ ช่วง 07.00 น. ผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กทม.ตรวจวัดได้ 40-66 มคก./ลบ.ม. (ค่าเฉลี่ย 52 มคก./ลบ.ม.) พื้นที่ที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ในระดับเกินมาตรฐาน อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีจำนวน 15 เขต คือ ปทุมวัน เขตสัมพันธวงศ์ เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตสาทร เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่



          นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม. กล่าวถึงแผนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเพื่อเดินหน้าให้กทม. เป็นเมืองปลอดฝุ่นว่าได้ผลักดันการปรับปรุงมาตรฐานการระบายไอเสียรถยนต์และคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง สนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เชื่อมโยงทุกระบบ เพิ่มทางเลือกการเดินทางแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพิ่มพื้นที่สีเขียวในกทม.จากปัจจุบัน 6.9 ตร.ม./คน ให้เป็น 10 ตร.ม./คน ในปี 2573  กทม.พิจารณามาตรการทางผังเมืองเพื่อช่วยบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศ โดยวางผังเมืองด้วยแนวคิดเมืองกระชับเพื่อให้มีที่อยู่ใกล้แหล่งงาน ลดระยะการเดินทาง ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนทางรางด้วยการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น



13-15 พ.ย.ตอนบนของประเทศ อุณหภูมิลดลง 2-5 องศา-ลมแรง



               กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่า จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในวันนี้



               ช่วงวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกต่อเนื่อง 



ก.คลัง-แบงค์กรุงไทย ชี้แจงใช้เงินเป๋าตัง2 ชิมช้อบใช้ เฟส3



            บ่ายนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารกรุงไทย แถลงรายละเอียดมาตรการชิมช้อบใช้ เฟส 3 ในเบื้องต้น นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะเริ่มต้นเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 อีกจำนวน 2 ล้านราย รอบนี้มีความพิเศษแตกต่างจากรอบก่อน ๆ คือ จะกันจำนวนผู้ใช้สิทธิที่เป็นผู้สูงอายุไว้ 5 แสนราย จากทั้งหมด 2 ล้านราย ได้เข้ามาร่วมโครงการได้ เพราะที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้จะเข้ามาลงทะเบียนไม่ทันคนหนุ่มสาว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการกระจายสิทธิให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงโครงการได้



            สำหรับรูปแบบโครงการครั้งนี้ จะเปิดให้ลงทะเบียน 2 ช่วง คือ ในช่วงเช้า 06.00 น. และในช่วงเย็น 18.00 น. ใช้สิทธิได้ทุกจังหวัด และจะขยายระยะเวลาจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2563 และจะครอบคลุมไปถึงคนที่ได้รับสิทธิในเฟส 1-2 ด้วย แต่เฟสที่ 3 จะไม่มีการแจกเงิน 1,000 บาท ในกระเป๋าใบที่ 1 เหมือนเฟส 1-2 แต่ยังคงให้สิทธิในกระเป๋าใบที่ 2 ได้เงินคืน (cash back) กรณีใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ได้เงินคืนร้อยละ 15 หรือไม่เกิน 4,500 บาท ส่วนที่เกิน 3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาทได้เงินคืนร้อยละ 20 แต่ไม่เกิน 4,000 บาท ส่วนเงินงบประมาณที่นำมาใช้ในรอบนี้ จะไม่มีการขอเพิ่ม เพราะเป็นไปตามเดิมที่วางแผนไว้ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการชิมช้อปใช้ 19,000 ล้านบาท



           มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 3 เน้นไปที่การขยายมาตรการเพิ่มเติมจากของเดิม ประชาชนที่ลงทะเบียนเฟส 1-3 สามารถขยายขอบเขตการใช้ได้ทุกจังหวัด จากเดิมกำหนดใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่อยู่ตามบัตรประชาชน และขยายการใช้เงินในกระเป๋าใบที่ 2 สามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พักและอาหารได้อีกด้วย



          ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียน "100 เดียว เที่ยวทั่วไทย" ผ่านทาง www.100เดียวเที่ยวทั่วไทย.comในวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งถือเป็นวันที่ 2 ว่า หลังเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. เพียงแค่ 2 นาทีแรก ก็มีผู้เข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิมากถึง 1.56 แสนราย และระบบได้ตัดจำนวนผู้ลงทะเบียนที่ 3 หมื่น ในเวลา 06.03 น. เพื่อให้ผู้ที่ลงทะเบียนเสร็จเข้าคิวเลือกซื้อสินค้า โดย 5 อันดับแรกพบว่า เป็นตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหาร สปา และกิจกรรมท่องเที่ยว



ผู้นำสหรัฐฯ โจมตีเฟด ลังเลปรับลดดอกเบี้ย



           ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Economic Club of New York กล่าวโจมตีธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เนื่องจากเฟดลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเฟดเป็นปัจจัยถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ตลาดหุ้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าจะปรับตัวขึ้นมากกว่านี้ หากมิใช่เป็นเพราะเฟดมีความลังเลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย



นักลงทุน ตีความคำพูดของ‘ทรัมป์’ส่งสัญญาณดีเรื่องเจรจาการค้า



          ผู้นำสหรัฐฯ บอกว่าคณะผู้แทนเจรจาสหรัฐฯกับจีน ใกล้ได้ข้อตกลงการค้า เฟส1 แม้อีกด้านหนึ่งเขายังคงใช้ถ้อยคำดุเดือดต่อว่าจีนเรื่องการค้า ความเห็นของนายทรัมป์ ได้รับการตีความว่าเป็นสัญญาณแห่งความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้ากับจีน  แต่ไม่ได้พูดถึงว่าสหรัฐฯจะชะลอการจัดเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) พร้อมทั้งได้ตำหนิ EU ที่ทำการค้าไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ การลงทุนในตลาดหุ้นดาวโจนส์ คงที่ 0.00 จุด ปิดที่ 27,691.49 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.83 จุด  ปิดที่ 3,091.84 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 21.81 จุด ปิดที่ 8,486.09 จุด สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 6 เซ็นต์ ปิดที่ 56.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 12 เซ็นต์ ปิดที่ 62.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองคำ ปรับลดลง 4 วันติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,453.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์



CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร 



 

ข่าวทั้งหมด

X