ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562

'น้องบิ๊นท์' คว้ามิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ควบรางวัลนางงามประจำทวีปเอเชีย

          กองประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล จัดประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ที่โตเกียว โดม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีสาวงามจากทั่วโลกเข้าร่วมประกวด ในเวทีนางงามใหญ่ติด 1 ใน 5 ของเวทีการประกวดแกรนด์สแลมของโลกปีนี้ "บิ๊นท์" น.ส.สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทยประจำปี 2562 เป็นตัวแทนร่วมประกวด คว้ารางวัลมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 มาครองได้สำเร็จ เป็นสาวไทยคนแรกที่คว้ามงกุฎในปีนี้ ยังคว้ารางวัลพิเศษ Continental Queen of Asia หรือนางงามประจำทวีปเอเชียมาครองอีกด้วย กองประกวดได้เปิดตัวสาวงามด้วยชุดประจำชาติ สลับกับการเปิดตัวสาวงามในชุดราตรี และชุดว่ายน้ำ ซึ่งบิ๊นท์ ทำผลงานได้ดี เข้ารอบลึกตั้งแต่ 15 คน ตามด้วย 8 คนสุดท้าย ก่อนที่พิธีกรจะประกาศให้ บิ๊นท์ คว้าตำแหน่งมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ไปครอง

          บิ๊นท์เป็นคนแรกของไทยที่ได้รางวัลมิสอินเตอร์เนชั่นแนล และเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี ที่นางสาวไทยหันมาส่งนางงามประกวดในระดับโลก สำหรับบิ๊นท์เป็นเภสัชกรการตลาด ด้านยาภูมิคุ้มกันบำบัด เข้าประกวดนางงามเป็นครั้งแรกในเวทีนางสาวไทย 2562 ภายหลังจากประกาศรางวัล แฟนนางงามไทยต่างดีใจที่ตัวแทนประเทศสามารถคว้ารางวัลนี้มาครองได้สำเร็จ โดยได้โพสต์แสดงความยินดี ทำให้ #MissInternational2019 ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเทรนด์ทวิตเตอร์

ปปง.เสนอยึดทรัพย์แม่มณี เตรียมประชุมคณะกรรมการธุรกรรม

          การติดตามทรัพย์สินของ น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ ทิพย์ประเวช อายุ 28 ปี เท้าแชร์แม่มณี กับ นายเมธี หรือบอส ชิณภา อายุ 20 ปี สามีที่ร่วมกันหลอกผู้เสียหายหลายพันคนร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 93 มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ก่อนขยายผลจับกุมเครือข่ายได้อีกรวม 8 คน ยึดทรัพย์ได้อีกจำนวนมาก ขณะที่พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้เสียหายในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ก่อนนำสำนวนส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับไปดำเนินการเป็นคดีพิเศษในวันที่ 15 พฤศจิกายน

          นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)เพื่อขอแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญมาสนับสนุนการดำเนินคดีและเป็นที่ปรึกษาคดีให้ดีเอสไอ พร้อมขอ ปปง. แต่งตั้งคณะกรรมการธุรกรรมทางการเงินเพื่อดำเนินการเอาผิดคดีฉ้อโกงประชาชน ส่วนการติดตามยึดอายัดทรัพย์ผู้กระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำส่ง ปปง. ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยกระทรวงยุติธรรมและปปง.จะร่วมกันยึดอายัดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ร่วมกระทำความผิดโยกย้าย ถ่ายเท ซ่อนเร้น จะมีความผิดฐานเป็นผู้ร่วมสนับสนุน และจะถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงิน มีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2 แสนบาท ผู้เสียหายสามารถยื่นเรื่องคุ้มครองสิทธิภายใน 90 วัน สามารถติดตามความคืบหน้าได้ที่ www.amlo.go.th หรือ โทร.1710

          ขณะนี้ ปปง.ได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานคดีนี้แล้ว เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด ในวันที่ 18 พฤศจิกายน หากมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน ปปง. จะดำเนินมาตรการคุ้มครองสิทธิของ ผู้เสียหาย

เหยื่อถูกล่อซื้อสินค้าลิขสิทธิ์ ร้องขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ

          ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อซื้อจากกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกัน แจ้งความตำรวจกองปราบปราม เพราะไม่มั่นใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่ ซึ่งไม่เป็นกลาง โดยส่วนใหญ่ถูกเรียกเงินตั้งแต่ 20,000-50,000 บาท ในวันนี้ กลุ่มผู้เสียหายก็จะรวมตัวกันไปขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ

          นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายที่จำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ถูกต้อง ถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวจับกุมกล่าวหาว่าจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ พยายามจะรีดเงิน แต่ผู้เสียหายรายนี้ไม่ยอม ทนสู้คดีจนพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง จึงอยากให้ตำรวจเร่งล้างบางกลุ่มที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ที่มีพฤติกรรมแบบนี้

          พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมจะตรวจสอบตามที่ได้ร้องขอ ขั้นตอนการจับกุมคดีลิขสิทธิ์ยอมความได้ การที่จะยอมความได้ ต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์ก่อน ต่อไปคือสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุม เมื่อจับกุมแล้วผู้เสียหายมีสิทธิ์ถอนคำร้องทุกข์ไปได้ เพราะคดีดังกล่าวยอมความได้ แต่หากไม่ได้มีการแจ้งความก่อน ถือว่าไม่มีการร้องทุกข์ก็จะไม่เป็นคดี ตัวแทนและพนักงานสอบสวน ที่รับเรื่องอาจจะมีความผิดได้เพราะไม่มีอำนาจมาดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้จะตรวจสอบตำรวจที่เข้าไปร่วมกระทำความผิดด้วยแน่นอน เพราะมีระเบียบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็ต้องรับผิดชอบ

ศาลยุติธรรม กำหนดปีหน้าเพิ่มเจ้าพนักงานตำรวจศาล 300 คน

          คดีพล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจวัยเกษียณ ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงในห้องพิจารณาศาลจังหวัดจันทบุรี ระหว่างรอกระบวนการพิจารณาคดีพิพาทมรดกที่ดิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 2 คน ก่อนตัวเองจะโดนยิงสวนและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมกำลังพัฒนาระบบเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ คอร์ทมาร์แชล (COURT MARSHAL) ซึ่งปัจจุบันนี้มีข้าราชการที่รับโอนมาผ่านการฝึกอบรมพร้อมปฏิบัติหน้าที่แล้ว 35 ราย ในปี 2563 จะคัดเลือกบุคคลให้ได้อย่างน้อย 300 คน กระจายไปประจำการที่ศาลภาคต่างๆ ทั่วประเทศที่มีอยู่ 275 แห่ง กำหนดว่าจะจัดกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล ประจำศาลภูมิภาคแต่ละศาล 1-2 นาย

          ชนวนเหตุขัดแย้งกันมายาวนานเรื่องมรดกที่ดิน 86 แปลง จำนวนกว่า 3,800 ไร่ ในพื้นที่บ้านตาเลียว ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ นายสมพล โกศลานันท์ ก่อนที่เมื่อปี 2513 มูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยจะติดต่อขอซื้อด้วยเงิน 12 ล้านบาท โดยใช้วิธีผ่อนชำระ ต่อมาปี 2538 นายสมพล เสียชีวิต ครอบครัว ตรวจสอบพบว่ามูลนิธิดังกล่าวขาดการผ่อนรวมเป็นเงิน 3 ล้านบาท ศาลจึงสั่งให้ที่ดินทั้งหมดกลับคืนมาเป็นของครอบครัวนายสมพล อีกครั้ง จน พล.ต.ต.ธารินทร์ แต่งงานกับลูกสาวของนายสมพล ทำให้ถือว่ามาเป็นเขยของตระกูล โกศลานันท์ และ พล.ต.ต.ธารินทร์ ยื่นเรื่องขอครอบครองที่ดินดังกล่าว แต่ทางฝั่งของนางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ซึ่งเป็นลูกสาวของนายสมพล เห็นว่าไม่ถูกต้องเพราะเป็นที่ดินของบิดาเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาท จึงร่วมกับสามีคือ นายบัญชา ยื่นฟ้องแพ่ง พล.ต.ต.ธารินทร์ จากนั้นก็ต่อสู้กันทางคดีมาโดยตลอด และฝั่งโจทก์แตกย่อยคดีมายื่นฟ้อง พล.ต.ต.ธารินทร์ ในคดีอาญา ข้อหาแจ้งความเท็จอีกด้วย

CR:เฟสบุ๊ก Miss International Beauty Pageant