ความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการจัดการทรัพย์สินคดีแชร์ลูกโซ่แม่มณี และ แชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงข่าวพร้อมระบุว่าข้อมูลล่าสุดว่ามีผู้เสียหายจากแชร์แม่มณีจำนวน 4,282 คน มูลค่าความเสียหาย 979 ล้านบาท และแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ผู้เสียหายรวม 6,047 คน มูลค่าความเสียหาย 1,236 ล้านบาท โดย ปปง.จะสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ดูแลคดีนี้โดยตรง ติดตามทรัพย์สินที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยึดอายัดมาได้ และเฉลี่ยคืนทรัพย์สินหลังจากการศาลตัดสิน ขณะเดียวกันจะมีการอายัดทรัพย์กับผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีที่ผู้ต้องหามีการยักย้าย ถ่ายโอน หรือปกปิด ซึ่ง ปปง. จะตรวจสอบและไปยึดทรัพย์ ซึ่งผู้ที่ร่วมกระทำความผิด หรือ รู้เห็นในการถ่ายโอน ถือว่ามีความผิดฐานฟอกเงิน อัตราโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ เส้นทางการเงินในคดีแชร์แม่มณีในเบื้องต้น จากการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการอายัดประมาณ 133 ล้านบาท ซึ่งจะมีการตรวจสอบตัวการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแม่มณีรองลงมาจำนวนมากกว่า 10 ราย โดยในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ดีเอสไอจะเริ่มรับยอดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการแจ้งไว้ และนำมารวมกับดีเอสไอ
ส่วนการออกหมายจับหรือเรียกตัวแม่ข่ายมาดำเนินคดีขณะนี้ยังต้องรอตรวจสอบ เพราะยังเป็นเพียงการกล่าวหาจากผู้เสียหายฝ่ายเดียว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และจะเรียกแม่ข่ายมาสอบปากคำจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 ราย
และกรณีแชร์ Forex3D มีบุคคลที่เข้าข่ายจะต้องถูกอายัดทรัพย์ 15 ราย ขณะนี้ทราบแล้วว่าใครเป็นตัวการหลัก และมีการโยกย้ายทรัพย์สินไปต่างประเทศบางส่วนแล้ว ส่วนการเล่นแชร์ Forex3D มองว่ามีการลงทุนจริงในช่วงแรกเพื่อสร้างความสมจริงหลังจากนั้นก็เข้าสู่ระบบการหลอกลวง ส่วนการออกหมายจับคาดว่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 70 ราย
...