ในโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีการจัดพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ต้อนรับอย่างสมเกียรติที่ทำเนียบรัฐบาล
.jpg)
นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจจำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมทางวิทยาศาสตร์ วิชาการและนวัตกรรม ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ของประเทศไทย กับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสารระหว่างกรมประชาสัมพันธ์ กับสำนักข่าวซินหัวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบันทึกข้อตกลง Memorandum of Understanding between The Siam Cement Public Company Limited and Chinese Academy of Sciences Innovation Cooperation Center (Bangkok) ซึ่งลงนามโดยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และ ดร.เจียง เปียว ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมและความร่วมมือ สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (กรุงเทพ)
ภายหลังการลงนาม นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้แถลงข่าวร่วมกัน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า การหารือในครั้งนี้เป็นการพูดคุยอย่างมิตรและมีการหารือในเรื่องพลเมืองพลวัต เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี พร้อมยืนยันว่าจะดูแลนักลงทุนเป็นอย่างดี พร้อมฝากให้จีนดูแลในเรื่องสินค้าข้าว การค้าขายออนไลน์ที่อยากให้จีนช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ เพื่อขจัดความยากจนในไทย รวมถึงการแก้ปัญหาฝุ่นควัน พร้อมยืนยันว่าไทยจะเร่งขับเคลื่อนโครงการรถไฟไทย-จีน ให้มีความรวดเร็ว เพราะถือเป็นเรื่องแรกที่มีการหารือร่วมกัน
จากนั้น นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า ไทยและจีนได้เห็นพ้องร่วมกัน ในเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจทางด้านการเมืองและการผลักดันให้เป็นรูปธรรมในทุก ๆ ด้าน ที่จะใช้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อีคอมเมิร์ซ รวมถึงรถไฟความเร็วสูง ที่จีนมีศักยภาพ พร้อมกล่าวด้วยว่าจากการมาอยู่ไทยหลายวันได้เห็นเรือพาณิชย์ในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก จึงปรารถนาให้ไทยและจีนร่วมมือ เหมือนกับเรือใหญ่ที่วิ่งเร็ว วิ่งไกล วิ่งอย่างมั่นคง มีความเร็วสูง พร้อมชื่นชมไทยในฐานะประธานอาเซียนที่จัดงานได้ประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันกล่าวถึงการประชุมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรืออาร์เซ็ป ที่มีการเจรจายาวนานถึง 6 ปี เห็นว่าจะต้องใช้ความพยายามต่อไป เพราะมั่นใจว่าในปีหน้าจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการโดยยึดกฎหมายระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีไทย ยังกล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีจีนที่กล่าวแสดงความคิดเห็นได้อย่างชัดเจน และขอมอบสุภาษิตให้ 1 บทที่ว่า "มดน้อยในบางครั้ง ก็สามารถช่วยพญาราชสีห์และพญาคชสารได้" ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบว่า "จีนกับไทยเหมือนนั่งเรือลำเดียวกันที่ต้องพายไปด้วยกัน ต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนทางการค้าและภัยต่างๆ และต้องมีความเสมอภาคเพื่อประโยชน์และเพื่อความเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน"
จากนั้นรัฐบาลได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนที่จะเดินทางกลับบ่ายวันนี้
...