ไอเอ็มเอฟแนะไทยออกมาตรการเร่งเศรษฐกิจ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่นางคริสตาลินา จอร์จิเอวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เข้าพบหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันของโลกและของไทย โดยไอเอ็มเอฟระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโดยทั่วไปได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และรวมถึงเบร็กซิต กับยังมีปัจจัยอีกหลายด้านที่ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอลง ซึ่งไอเอ็มเอฟ ระบุว่า เศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความแข็งแกร่ง ทำให้ช่องทางที่จะใช้เครื่องมือที่หลากหลายทั้งการเงินและการคลัง จึงแนะนำให้ใช้ทุกเครื่องมือที่มี อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลัง มีความเห็นว่า กระทรวงการคลังไม่เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องของนโยบายการเงิน เพราะเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะกำกับดูแล
ตามล่าผู้ต้องขังหลบหนีจากศาลจังหวัดพัทยา
ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่ศาลจังหวัดพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีผู้ต้องขังหลบหนี 3 คน ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติดที่ส่งตัวมาจากเรือนจำพิเศษหนองปลาไหล จำนวน 14 คน
สำหรับผู้ที่หลบหนีคือ นายหน่อยหรือต้น นิลเทศ ชาวไทย น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ ชาวไทยและสามีคือนายบาร์ต อาเลน เฮลมัส ชาวอเมริกัน โดยผู้ต้องหาทำร้ายเจ้าหน้าที่และยิงปืนขึ้นฟ้า 4 นัดเปิดทางขึ้นรถกระบะหลบหนี
เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแทง และถูกยิงคือ ร.ต.อ.ธนะเมศฐ์ โพธิพันธ์ รอง สว.ป.สภ.สัตหีบ ช่วยราชการศาลจังหวัดพัทยา กู้ภัยนำส่ง รพ.กรุงเทพพัทยา
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่าผู้ถูกคุมขังในคดียาเสพติด ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทำให้ทราบว่า ทั้ง 3 คนมีการนัดแนะวางแผนกันมาอย่างดี และกำลังตรวจสอบว่าได้อาวุธปืนกับมีดที่ใช้ก่อเหตุมาได้อย่างไร โดยคนที่ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลพื้นที่ศาลคือผู้ต้องขังที่เป็นคนไทย และคนต่างชาติเป็นคนแทง โดยหลังจากคนร้ายชาวไทยยิงไปแล้ว 1 นัด จึงขู่ว่าจะยิงอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเปิดประตู และพอได้ออกมาแล้วคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงเปิดทาง จนวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่หลบหนีไป
ศาลค้านประกันตัว ‘แม่มณี-เมธี’
คดีแชร์ลูกโซ่แม่มณี ซึ่งเมื่อวานนี้ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี นำตัวน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ เดียร์ หรือ ที่รู้จักกันฉายา แม่มณี และ นายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี สอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และเครือข่าย จากนั้นนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายสูง นอกจากนี้ทั้ง 2 คนไม่ได้ขอยื่นประกันตัว ทนายความแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการขอยื่นประกันตัว เพราะถูกยึดอายัดหลักทรัพย์ไปหมดแล้ว
สำหรับผู้เสียหายแชร์แม่มณี ที่ได้ลงทะเบียนร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ รวม 6 วัน มีจำนวน 4,058 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,191,579,210.02 บาท
นอกจากนี้ยังมีคดีแชร์ลูกโซ่ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่ปรากฎชื่อในเฟสบุ๊กคือ ‘บ้านแชร์น้องพริมพารวย” ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 50 รายเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรีให้ดำเนินคดี น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล อายุ 25 ปี ชาวสุพรรณบุรีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 60-70 จากนั้น น.ส.วิจิตรา ก็หลบหนีไป เบื้องต้นแชร์ลูกโซ่กลุ่มนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแชร์แม่มณี แต่มีผู้เสียหายประมาณ 100 คนและมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
จับแล้ว 2 มือยิงแฟนบอลท่าเรือ
คดีแฟนฟุตบอลสโมสรการท่าเรือไทย ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ รวม 2 ราย ในงานฉลองแชมป์เอฟเอคัพของสโมสร เหตุเกิดในท้องที่ สน.ท่าเรือ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วคือ นายธันวา บุญผาด อายุ 30 ปี และนายจตุรงค์ มีโสภา อายุ 34 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด 9 มม. และปืนขนาด .38 พร้อมกระสุน 10 นัด โดยพบว่าทั้งสองเป็นชาวชุมชนตลาดคลองเตย ส่วนชนวนเหตุเกิดจากทั้งสองกับพวก มีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เมื่อมาพบกันจึงมีปัญหาวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงใส่กันจนทำให้มีแฟนฟุตบอลสโมสรท่าเรือถูกยิงจนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ
สอบรุ่นพี่ คดีรับน้องแม่โจ้
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพของนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บจากการรับร้องในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ จนผู้เสียหายต้องยื่นใบลาออก และแจ้งความที่สภ.แม่โจ้ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม โดยเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ ได้สอบปากคำเพิ่มเติมผู้เสียหาย พร้อมผู้ปกครอง และผู้บริหารของมหาวิทยาลัย จากนั้นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย นำนักศึกษาชายรุ่นพี่ 1 ใน 2 คน ที่ผู้เสียหายจำได้ว่าน่าเป็นผู้ลงมือ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่าอยู่ในกลุ่มกิจกรรม แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้ายผู้เสียหาย โดยในวันนี้จะมีการสอบปากคำนักศึกษา 23 คนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยืนยันว่า หากพบการกระทำความผิดจริง ก็พร้อมให้ความยุติธรรมและให้ทางตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ส่วนบทลงโทษภายในมหาวิทยาลัย หากมีความผิดก็จะมีบทลงโทษตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน พักการเรียน ให้ออก ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นยังสรุปไม่ได้ในตอนนี้ ต้องรอข้อเท็จจริงและทางมหาวิทยาลัยจะเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)
พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เรือนแก้ว รอง ผกก.สอบสวน สภ.แม่โจ้ เปิดเผยว่า แม้รุ่นพี่ที่เข้ามาให้ปากคำจะปฏิเสธ แต่ทางตำรวจจะเรียกนักศึกษาทั้งหมดที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง 23 คน มาสอบปากคำในวันที่ 5 พ.ย. เพื่อหาคนลงมือให้ได้
ทั้งนี้ ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 ตุลาคม เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องที่บริเวณสนามกีฬา ซึ่งเป็นการแจ้งกฎระเบียบของทางมหาวิทยาลัย แต่หลังจากเสร็จกิจกรรมประมาณ 21.00 น. มีกลุ่มรุ่นพี่ประมาณ 15 คน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ปี 2 และปี 3 ได้เรียกรุ่นน้องปี 1 มาทำกิจกรรมต่อที่บริเวณอ่างน้ำด้านหลังมหาวิทยาลัย ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายจนต้องออกจากแถว ทำให้ถูกข่มขู่ และเมื่อเล่าเรื่องให้ผู้ปกครองฟัง ก็มีการไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และลาออกจากมหาวิทยาลัย
...