ไทยให้ความสำคัญเวที EAS ขอให้อาเซียนเตรียมพร้อมรับมือด้านความมั่นคง

          การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ครั้งที่ 14 ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก มีสมาชิก 18 ประเทศ ได้แก่ ประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา 8 ประเทศ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี นิวซีแลนด์ รัสเซีย และสหรัฐฯ จัดขึ้นเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางและทบทวนความร่วมมือการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ

          กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมได้ติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการมะนิลา เพื่อต่อยอดความร่วมมือตามปฏิญญากรุงพนมเปญว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการพัฒนาภายใต้การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ค.ศ. 2018 - 2022 และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค รวมทั้งได้รับรองเอกสาร 3 ฉบับ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการต่อต้านยาเสพติด การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และการเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน

          นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอาเซียน เน้นย้ำว่าการประชุมครั้งนี้เป็นเสาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก มีความสำคัญและมีบทบาทในการส่งเสริมสันติภาพ และความเจริญในภูมิภาคอาเซียนมาตลอด ไทยให้ความสำคัญกับเวทีการประชุมนี้ในการส่งเสริมความไว้ใจเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งมีความสำคัญกับการรับมือกับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพในภูมิภาค ประธานอาเซียน ระบุว่า จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงในรูปแบบต่างๆ พร้อมขอให้ทุกประเทศร่วมกันพัฒนาเอเชียตะวันออกเพื่อเพิ่มความไว้ใจและร่วมกันแก้ไขความท้าทายต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ระหว่างกัน

CR:รัฐบาลไทย, กระทรวงการต่างประเทศ