ใกล้เข้ามาแล้วกับประเพณีลอยกระทง ปีนี้ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงจัดกิจกรรม “เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ” เพื่อสร้างคุณค่าความเป็นไทย สะท้อนภาพลักษณ์ และวิถีของคนไทย ตลอดจนการให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเรียนรู้ สัมผัสประเพณีอันดีงาม
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ ด้วยการชูอัตลักษณ์ของ 6 จังหวัด คือ จ.ตาก จ.เชียงใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ร้อยเอ็ด จ.สมุทรสงคราม และจ.สุโขทัย แต่ละที่จะโดดเด่น พิเศษ เน้นอนุรักษ์ธรรมชาติ และรักษ์น้ำ เช่นเดียวกันกับที่ กรุงเทพมหานคร จัดงานขึ้นที่สวนสันติชัยปราการ ในวันที่ 9-11 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 16.00 น. โดยเฉพาะวันที่ 11 พ.ย.จะมีกิจกรรมแห่ขบวนนพบูชาศรัทธาคงคา มหานที โดยน.ส.ราณี แคมเปน หรือ เบลล่า เป็นนางนพมาศ และวันอื่นๆ จะมีกิจกรรมเน้นการรักษา สืบสานประเพณี วัฒนธรรม เช่น ปรากฏการณ์ม่านน้ำนิรมิต ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม การแสดงดอกไม้ไฟโบราณ ศิลปหัตถกรรมทรงคุณค่าในรูปแบบต่างๆ ทั้ง การแทงหยวก การประดิษฐ์หัวโขน
ด้านนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยถึง ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลองว่า เป็นประเพณีอยู่คู่ชาวแม่กลองมานานกว่า 50 ปี การทำกระทงจึงเน้นความประหยัด พอดี เรียบง่าย แบบรักธรรมชาติ ตามความคิดชาวแม่กลองว่า “คนรักธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะรักษาคน” ดังนั้นการลอยกระทงด้วยกาบกล้วยนี้ มาจากต้นกล้วยที่ปลูกกันเองจำนวนมากเพื่อขอขมาแม่น้ำ แบบไม่ทำลายแม่น้ำ นอกจากนี้ ส่วนประกอบที่นำมาตกแต่ง นอกจากดอกไม้ ความโดดเด่น คือธูปเทียน ที่ทำจากมือคนแม่กลอง จากการเคลือบน้ำมันยาง และเทียน มีขนาดยาว 1 ฟุต ทำให้ธูปเทียนในกระทงกาบกล้วย สามารถส่องสว่างทั่วสายน้ำได้นานถึง 47 นาที ตลอดลำน้ำก็จะมีความสวยงามจากแสงสว่างธูปเทียน
ททท. คาดการณ์ไว้ว่านักท่องเที่ยวจะเข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ร้อยละ 10 หรือประมาณ 480,000 คน ตั้งเป้ารายได้กระจายสู่ท้องถิ่น และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสองเดือนสุดท้ายของปีกว่า 2,000 ล้านบาท