ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562
รมว.กลาโหม สั่ง ผบ.เหล่าทัพดูแลความเรียบร้อยประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพไม่ให้เหตุร้ายซ้ำรอยปี 2552
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหม ให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายน ตามความรับผิดชอบ รวมถึงความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของผู้นำทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และ รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศไทย หรือซ้ำร้อยเหมือนการจัดประชุมเมื่อปี 2552 พร้อมฝากไปยังประชาชนให้ช่วยกันสอดส่อง เป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจงเจ้าหน้าที่ เพราะไม่ต้องการให้ผู้ไม่หวังดี ใช้โอกาสนี้ในการสร้างสถานการณ์ให้ประเทศชาติเสียหาย ฝ่ายความมั่นคงได้ประสานข้อมูลกับแต่ละประเทศอยู่แล้ว
ประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมสอบ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำสารตั้งต้นวัตถุระเบิดเข้ามาในบริเวณรัฐสภา
หลังนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำสารตั้งต้นวัตถุระเบิดเข้ามาภายในรัฐสภา และอ้างว่าเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดของรัฐสภาตรวจสอบไม่พบ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เบื้องต้นจะติดตามข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้มีการขออนุญาต ในการนำสารประกอบวัตถุระเบิดเข้ามาในพื้นที่รัฐสภา ส่วนการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่การลอกเลียนแบบ ของบุคคลอื่นหรือไม่นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ขอวินิจฉัยเรื่องนี้ เนื่องจากยังจะต้องตรวจสอบก่อนว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าระบบการรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเป็นไปตามมาตรฐาน
เดินหน้าต่อ ชิมช้อปใช้ เฟส 3
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่าตอนนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างประเมินผล โครงการชิมช้อปใช้เฟส 3 ซึ่งอยู่ในช่วงประเมินผลเฟส 1 กับ 2 ซึ่งคาดว่า 1 เดือนหลังจากนี้ น่าจะรู้ผล เพราะต้องใช้เวลาพิจารณาการใช้จ่ายในกระเป๋า 2 เพื่อรับสิทธิเงินคืน หรือ “แคชแบค” ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกับมาตรการด้านการท่องเที่ยว “100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” และ“เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก” หากได้รับความนิยมจากประชาชน โอกาสที่ขยายสิทธิเพิ่มเติมในเฟส 3 ก็มากขึ้น
สำหรับการเปิดโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 3 นี้ กระทรวงการคลังต้องตรวจสอบความต้องการของประชาชนก่อนว่ามีมากน้อยแค่ไหน และต้องดูระบบว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรอีกหรือไม่ ก่อนจะเปิดให้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟสที่ 3 ได้ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีผลต่อเศรษฐกิจแน่นอน โดยรัฐบาลพร้อมน้อมรับคำติชมของทุกฝ่าย
ธปท.เร่งจัดการเว็ปไซด์ขายธนบัตรปลอม
นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย กรณีเว็บไซต์ fakethaibills.com มีการประกาศจำหน่ายขายธนบัตรปลอมคุณภาพสูง ขอเรียนว่า ธปท. อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย และขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเว็บไซด์ดังกล่าว โดยหากผู้ใดนำเข้าธนบัตรปลอม หรือมีไว้เพื่อนำไปใช้ มีความผิดตาม มาตรา 243 มาตรา 244 ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499
นอกจากนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยยังกำหนดให้วันที่30 ธันวาคม เป็นวันทำการตามปกติของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของปีซึ่งจะมีการทำธุรกรรมจำนวนมากที่ตกลงชำระราคาในวันดังกล่าวไว้ล่วงหน้าแล้ว
หุ้นไทยปิดบวกกว่า10 จุด รอเฟดแถลงลดดอกเบี้ยหรือไม่คืนนี้
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,601.83 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,498.35 ล้านบาท
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 131.01 จุด แตะที่ 22,843.12 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลง 119.05 ที่ระดับ 26,667.71 จุด
ป.ป.ส. จับชาวสโลวาเกีย ลักลอบขนโคเคน 1 กิโลกรัมกลางสนามบินสุวรรณภูมิ
เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. จับกุม ผู้ต้องหาสัญชาติสโลวาเกีย หลังลักลอบขนโคเคน น้ำหนัก 4.1 กิโลกรัม หวังขึ้นเครื่อง โดยซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง เตรียมนำขึ้นเครื่องบิน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ในรอบปีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ลำเลียงได้ 49 คน และยึดยาเสพติด โคเคนได้ 9 คดี น้ำหนักรวม 30.6 กิโลกรัม ,ไอซ์ 5 คดี น้ำหนักรวม 33.7 กิโลกรัม ,ยาอี 6 คดี น้ำหนักรวม 54.5 กิโลกรัม ,เฮโรอีน 4 คดี น้ำหนักรวม 23.7 กิโลกรัม, กัญชา 2 คดี น้ำหนักรวม 1.1 กิโลกรัม และคีตามีน 3 คดี น้ำหนักรวม 32 กิโลกรัม
ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติตั้งเจ้าคณะกทม.-เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ-วัดสามพระยา
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) รองโฆษกพศ. แถลงผลการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ตำแหน่งสำคัญ เช่น มส.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งพระธรรมสุธี (นรินทร์ นรินฺโท) เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง รักษาการเจ้าคณะกรุงเทพฯ เป็นเจ้าคณะกรุงเทพฯ พระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ พระเทพวิสุทธิดิลก(ละเอียด กิตติสุขุโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา รักษาการเจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็นเจ้าอาวาสวัดสามพระยา พระโสภณคณาภรณ์ (ไชยวัฒน์ ชยวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นรักษาการเจ้าคณะจ.ชลบุรี(ธ) และพระธรรมไตรโลกาจารย์ (พูนศักดิ์ วรภทฺทโก) เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรรมการมส. เป็นรักษาการเจ้าคณะจ.จันทบุรี(ธ)
เครือข่ายนักกฎหมายเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชน ยื่นให้ป.ป.ช. ตรวจสอบระบบการสั่งคดีของพนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ คดีอาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท
นายธนชาติ แสงประดับ ธรรมโชติ ทนายความและเครือข่ายนักกฎหมายเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชน ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบระบบการสั่งคดีของพนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ กรณีค้าประเวณีสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ภรรยา และบุตร ของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของธุรกิจฯ และต้องการทราบว่า กรณีของนายกำพลอยู่ในขั้นตอนใด เพราะหากสั่งไม่ฟ้องนายกำพลด้วย ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่
สำหรับในคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษความผิดค้าประเวณี โดยยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากมีการอุทธรณ์คดีอยู่ ขณะที่ ผู้ต้องหาสำคัญ คือ นายกำพล ภรรยาและบุตรของนายกำพล ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ จนมีคำสั่งไม่ฟ้องภรรยาและบุตรของนายกำพล โดยมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ถ้าในองค์กรมีความเห็นในทางกฎหมายต่างกันแล้วประชาชนจะพึ่งใคร พร้อมเสนอให้ ป.ป.ช. ดูเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งได้รับข้อมูลว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีของคนที่หลบหนีไปต่างประเทศ
เตือนหลายประเทศรวมถึงไทย เตรียมจมน้ำ
นายเบนจามิน สเตราส์ หนึ่งในทีมผู้วิจัยและซีอีโอของไคลเมท เซ็นทรัล องค์กรเอ็นจีโอที่วิจัยเรื่องสภาพภูมิอากาศ เปิดเผยว่าประชาชนหลายล้านคนทั่วโลกเสี่ยงประสบภัยน้ำท่วม เพราะหลายเมืองจะจมอยู่ใต้ทะเล โดยระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 2-7 ฟุต(หรือ 0.6-2.1 เมตร)และอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ตลอดช่วงศตวรรษที่ 21 นอกจากนั้น เมืองต่างๆที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลอาจจะหมดไปจากแผนที่โลก ถ้าไม่ทำคันกั้นที่แข็งแรงพอที่จะป้องกันน้ำทะเลไม่ให้ท่วม ร้อยละ 70 ของประชาชนใน 8 ประเทศในแถบเอเชียเสี่ยงถูกน้ำท่วมทุกปี และเสี่ยงจมอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นคือ จีน บังกลาเทศ อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น ส่วนอีก 19 ประเทศรวมถึงบราซิลและสหราชอาณาจักรเสี่ยงจมอยู่ใต้ทะเลในปี 2643