หลังเทศกาลฮาโลวีน จะมีเทศกาลลอยกระทง ตามมาติดๆ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นประเพณีของไทยที่มีมาอย่างยาวนานพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยสั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตรา และปรากฏกายให้เห็นเด่นชัดตามสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทง หรือสถานที่จัดงานรื่นเริง สถานบันเทิง ชุมชน สวนสาธารณะที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น ตู้กดเงินสด,ร้านสะดวกซื้อ และสถานีบริการเชื้อเพลิง และเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลต้องสงสัย บุคคลพ้นโทษ และเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งได้กำชับให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ 3 ห้าม 3 ไม่ 3 ควร
โดยมาตรการ 3 ห้าม คือ ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย ในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท,ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ, ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ในขณะขับขี่ หรือโดยสาร หรือบนรถ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 42 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วน 3 ไม่ คือ ไม่ควรแต่งกายล่อแหลมต่อมิจฉาชีพ,ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานตามลำพัง, ไม่ควรไปเที่ยวในสถานที่อโคจร มั่วสุม และ 3 ควร คือ ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือ โดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก, ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกล่อลวงไปในทางมิชอบ ,ควรรื่นเริง บนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย
นอกจากนั้น หากประชาชน พบเห็นเหตุ สิ่งของ หรือบุคคลต้องสงสัยที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและเป็นอันตราย สามารถแจ้งข้อมูลมาที่สายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 และ 191 หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน police i lert u ได้ตลอด 24 ชั่วโมง