ผู้นำยูเครนสั่งปิดหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฎที่ฝั่กใฝ่รัสเซีย

ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ออกคำสั่งปิดหน่วยงานภาครัฐทุกแห่งในเขตโดเน็ตส์ก และลูฮานส์ก ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นที่มั่นของฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนที่มีจุดยืนฝักใฝ่รัสเซีย โดยโรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยฉุกเฉิน สถาบันการเงินของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรต่างๆ เช่น ศาล ซึ่งจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ถอนเจ้าหน้าที่ และย้ายนักโทษออกจากพื้นที่ภายใน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังเสนอให้ธนาคารกลางยูเครนยุติการให้บริการธนาคารพาณิชย์ทุกรูปแบบ รวมถึงบริการบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม ทั้งนี้ คำสั่ง ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดี มีขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากยูเครนประกาศคุมเข้มการถือหนังสือเดินทางในพื้นที่โดยรอบ และยังยุติการจ่ายเงินภาครัฐ ซึ่งรวมถึงเงินบำนาญให้แก่บุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ด้วย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโปโรเชนโกประณามการจัดการเลือกตั้งของทั้งสองเขตเพื่อปูทางไปสู่การแยกตัวออกจากยูเครนเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า ขัดต่อกฏหมายและถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้เมื่อเดือนกันยายน ขณะที่แกนนำฝ่ายกบฎแบ่งแยกดินแดนตอบโต้ว่า รัฐบาลยูเครนเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน อีกทั้งยังล้มเลิกกฎหมายว่าด้วยการปกครองตนเองของทั้งสองเขต ทั้งนี้ การสู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งดำเนินมานาน 7 เดือน องค์การสหประชาชาติรายงานว่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4,100 คน

(0740 F171)