อียูตกลงเลื่อนเบร็กซิตถึง 31 มกราคมปีหน้า
ที่ประชุมของนักการทูต 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู มีมติในหลักการให้เลื่อนกำหนดเวลาที่สหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของกลุ่ม หรือที่เรียกว่าเบร็กซิตไปจนถึงวันที่ 31 มกราคมปีหน้า ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าจะไม่มีการเจรจาข้อตกลงอีก นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงว่า ภายใต้หลักการนี้ สหราชอาณาจักรสามารถถอนตัวออกจากกลุ่มในวันที่ 1 ธันวาคมปีนี้ หรือ 1 มกราคมปีหน้าก็ได้ หากรัฐสภารับรองกฎหมายเบร็กซิตภายในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม โดยในขณะนี้อียูกำลังรอให้ฝ่ายสหราชอาณาจักรยืนยันเรื่องการเลื่อนเบร็กซิตอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นภายในเวลา 24 ชั่วโมงหากไม่มีสมาชิกอียูประเทศใดยื่นเรื่องคัดค้าน ข้อตกลงให้เลื่อนเบร็กซิตจะมีผลบังคับใช้ทันที
ทั้งนี้ มีแนวโน้มมากขึ้นที่สหราชอาณาจักรจะจัดการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้มากขึ้น เมื่อนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เสนอให้ที่ประชุมสภาสามัญชนลงมติยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ภายในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ขณะที่มีพรรคการเมืองฝ่ายค้านต้องการเลือกตั้งใหม่ภายในวันที่ 9 ธันวาคม โดยนายกรัฐมนตรีต้องการเสียงสนับสนุนจากสภาสามัญชน 2 ใน 3 คือมากกว่า 434 เสียงจากทั้งหมด 650 เสียงจึงจะยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม ผลจากการลงมติล่าสุด สมาชิกสภาสามัญชน ลงมติ ปฎิเสธข้อเสนอยุบสภาเป็นครั้งที่ 3 ตามที่นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคแรงงานจะไม่ออกเสียงเห็นชอบการยุบสภาจนกว่าจะมั่นใจว่าสหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของอียูโดยมีข้อตกลง
โดยมีสมาชิกเพียง 299 เสียงที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งใหม่ นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน เรียกร้องให้สมาชิกสภาไม่นำประเทศชาติมาเป็นตัวประกัน และประกาศว่าเขาจะนำเรื่องนี้กลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯอีกครั้ง โดยจะเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่จะใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ เพื่อประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่
ปธน.สหรัฐฯถูกวิจารณ์กรณีคุ้มครองน้ำมันซีเรีย
ในการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงกรณีการเสียชีวิตของนายอาบู บาการ์ อัล-บักห์ดาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส มีข้อความตอนหนึ่งที่เขากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯจะมีการทำข้อตกลงกับบริษัทเอ็กซอนโมบิล หรือผู้ประกอบการด้านพลังงานรายใหญ่แห่งอื่นของสหรัฐฯให้เข้าไปในซีเรียเพื่อแผ่ขยายความร่ำรวย ซึ่งทั้งเอ็กซอนโมบิล เชฟรอน และบริษัทพลังงานรายใหญ่ทุกแห่งของสหรัฐฯ ต่างปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อคำกล่าวของประธานาธิบดี แต่คำกล่าวนี้ทำให้นักการเมืองเดโมแครต และวิเคราะห์จากหลายสถาบันวิจารณ์ว่า เป็นการประกาศให้ประชาคมโลกทราบว่า สหรัฐฯต้องการขโมยน้ำมันของซีเรีย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดทั้งศีลธรรมและกฎหมาย ทั้งยังทำให้บริษัทของสหรัฐฯ ที่จะเข้าไปลงทุนในซีเรียถูกจับตามอง
ด้านนายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ประจำทำเนียบขาว อธิบายว่า ในขณะนี้สหรัฐฯ มีการเสริมกำลังทหารในภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นภารกิจชั่วคราวเพื่อปกป้องแหล่งน้ำมันในพื้นที่ ไม่ให้ถูกกลุ่มไอเอสโจมตีหรือลักลอบเข้ามาขโมยน้ำมัน
นายกฯหญิงคนแรกของเบลเยียม
นายกรัฐมนตรีเบลเยียมชาร์ล มีแชล ประกาศว่านางโซฟี วิลเมส อายุ 44 ปี รัฐมนตรีกระทรวงงบประมาณจะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการคนใหม่ของเบลเยียม โดยมีกำหนดเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป เพื่อรับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ เนื่องจากนายมีเเชลจะไปรับตำแหน่งประธานสภายุโรปในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และนางวิลเมส จะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน โดยเธอจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของเบลเยียม มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปี 2567
ความหวังข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ/น้ำมันโลก
กรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาจะลงนามในข้อตกลงการค้าบางส่วนกับจีนก่อนกำหนดแม้ว่าจะไม่ได้ให้รายละเอียดที่แน่ชัดทำให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น ขณะที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดจะเริ่มการประชุมในวันนี้จากกำหนดประชุม 2 วัน ก็ยังมีการคาดหมายว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ส่งผลดีต่อการซื้อขายหลักทรัพย์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 132.66 จุด ปิดที่ 27,090.72 จุด
เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.87 จุด ปิดที่ 3,039.42 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 82.87 จุด ปิดที่ 8,325.99 จุด
ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน ความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลอุตสาหกรรมที่อ่อนแอของจีน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 85 เซ็นต์ ปิดที่ 55.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 45 เซ็นต์ ปิดที่ 61.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
…