ติ๊กต๊อก แอปพลิเคชั่นคลิปวิดีโอสั้นที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อบรรดาสมาชิกสภาคองเกรส เตือนว่า แอปพลิเคชั่นดังกล่าวอาจจะเสี่ยงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยข่าวกรองต่างๆ เร่งสอบสวนแอปพลิเคชั่นดังกล่าว เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน
วุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ และวุฒิสมาชิกทอม คอตตัน เป็นสองแกนนำหลักที่เรียกร้องให้หน่วยงานของสหรัฐฯ เร่งประเมินความเสี่ยงต่อการเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก ตลอดจนแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่บริษัทสัญชาติจีนเป็นเจ้าของ เพราะวิตกว่าทางการจีนอาจใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวในการสอดแนมพลเมืองสหรัฐฯ หรืออาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงทางการเมืองในสหรัฐฯ เนื่องจากบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นนี้ คือบริษัทไบท์แดนซ์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงปักกิ่งของจีน และแม้ว่าติ๊กต๊อกจะไม่ได้รับอนุญาตให้บริการในจีน แต่ไบท์แดนซ์ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นโต่วอินที่มีความคล้ายคลึงกันออกมาเพื่อให้บริการในจีนโดยเฉพาะ
ติ๊กต๊อกเป็นหนึ่งในไม่กี่แอปพลิเคชั่นจากจีนที่ได้รับความนิยมในประเทศตะวันตก ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา พบว่า ติ๊กต๊อกมียอดการดาวน์โหลดกว่า 177 ล้านครั้ง ลดลงร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ยังรั้งอันดับที่สองของแอปพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในโลก รองจากเฟซบุ๊ก และสามารถสร้างกำไรผ่านไอโอเอส แอปสโตร์เมื่อไตรมาสที่ผ่านมาได้ถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท เฉพาะในสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านบัญชี ติ๊กต๊อก ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ทั้งหมดไว้ที่ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ และเก็บข้อมูลสำรองไว้ที่สิงคโปร์ โดยไม่มีข้อมูลใดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายจีน ยิ่งกว่านั้น ติ๊กต๊อก ยังย้ำว่าให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างมาก และไม่เคยสกัดกั้นข้อมูลที่เป็นประเด็นอ่อนไหวต่อจีน รวมทั้งไม่เคยถูกรัฐบาลจีนกดดันให้สกัดกั้นข้อมูลดังกล่าว ตามที่ถูกกล่าวหาในกรณีการประท้วงที่ฮ่องกงด้วย