ผู้นำสหรัฐฯ สั่งระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรอาหารทะเลจากไทย

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยื่นจดหมายถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประธานวุฒิสภาสหรัฐฯ รวมทั้งนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าเขาได้มีคำสั่งระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือจีเอสพี อาหารทะเลแช่แข็งจากประเทศไทย เนื่องจากไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการกดขี่แรงงานในภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเลได้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า การระงับมาตรการดังกล่าว ในเบื้องต้นจะมีขึ้นเป็นเวลา 6 เดือน คาดว่า จะกระทบต่อการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 3 ของโครงการทั้งหมด โดยมูลค่ารวมของโครงการในปัจจุบันมีมากกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 40,000 ล้านบาท

          ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 สหรัฐฯให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรสินค้าไทย ครอบคลุมกว่า 3,400 รายการ และเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรสินค้าจากไทยประมาณ 11 รายการ โดยระบุว่า ไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเกินร้อยละ 50 เช่น ทุเรียนสด มะละกอแปรรูป แผ่นไม้ปูพื้น เป็นต้น ซึ่งทางการไทย ยื่นคำร้องขอคืนสิทธิระหว่างการพิจารณาทบทวนรายการสินค้าประจำปีมีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562 เวลา 10.30 น.นายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จะแถลงรายละเอียดกรณีสหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรไทย ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

          นอกจากประเทศไทยแล้ว ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาในประเด็นการระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรกับแอฟริกาใต้และอาเซอร์ไบจานด้วย เนื่องจากเห็นว่าแอฟริกาใต้มีปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่อาเซอร์ไบจานมีปัญหาการกดขี่แรงงานเช่นเดียวกับไทย

          ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ มีคำสั่งให้คืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรสินค้าที่นำเข้าจากยูเครน หลังจากเคยมีคำสั่งระงับใช้ไปก่อนหน้านี้ จากปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า ปัจจุบัน ยูเครน สามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ในระดับที่น่าพึงพอใจแล้ว

แฟ้มภาพ