กระทรวงกลาโหมอิรัก เปิดเผยเมื่อวังอังคาร (22 ต.ค.) ว่าสหรัฐฯ ย้ายกำลังทหารประมาณ 1,000 นายออกจากพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียมาอยู่ที่อิรักโดยไม่ได้ขออนุญาตทางการอิรัก และทำให้ทางการอิรักต้องยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อให้สหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากประเทศ โดยเมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) ยังมีการเจรจาระหว่างนายนาจาห์ อัล-ชามมารี รัฐมนตรีกลาโหมอิรัก กับนายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่กรุงแบกแดด ซึ่งอิรักได้ย้ำข้อเรียกร้องเรื่องการถอนทหารภายใน 4 สัปดาห์ แต่นายเอสเปอร์ ชี้แจงว่า เป็นการย้ายมาพำนักชั่วคราว เพื่อเตรียมพร้อมเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ แต่ไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาว่าจะเดินทางออกจากอิรักเมื่อใด
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอาดิล อับดุลมาห์ดี แห่งอิรัก ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อิรักไม่ยินยอมให้ทหารสหรัฐฯ เข้ามาพำนักอยู่ในอิรักไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาเท่าใดก็ตาม และขณะนี้ทางการอิรักกำลังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายสากลเพื่อให้กองทัพสหรัฐฯออกไปจากอิรัก
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ถอนทหารออกจากซีเรีย ตามนโยบายพาทหารอเมริกันกลับบ้าน ซึ่งเขาเคยกล่าวว่า สงครามในซีเรียเป็นสงครามของคนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับสหรัฐฯ จึงมีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารจากซีเรียมาอิรัก แต่สหรัฐฯก็มีกำลังทหารอยู่ในอิรักแล้ว 5,000 นาย ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ และการต่อต้าน เนื่องจากมีชาวอิรักจำนวนมากไม่พอใจกองทัพสหรัฐฯ ที่รุกรานประเทศมาตั้งแต่ปี 2546
....