*สรุปข่าว18.00น.*

+++มีรายงานระบุว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เข้าพบนายกรัฐมนตรี  หลังจากที่นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว แถลงสรุปผลขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันที่ 22 พ.ค.2557 รวมทั้งสิ้น 15 โครงการ มียอดขาดทุนอยู่ที่ 682,000 ล้านบาท

+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ นโยบายการใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าวที่ประเมินผลขาดทุนจากการปิดบัญชีราว 6.82 แสนล้านบาท คงไม่ใช้การตั้งงบประมาณมาชำระคืนหนี้ เพราะทำได้ลำบาก ดังนั้น เบื้องต้นอาจจะจัดหาเงินกู้ ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะไม่กำหนดอายุพันธบัตรให้ยาวมากนัก โดยอาจจะกำหนดอายุ 3 ปี 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปี มอบหมายให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ไปพิจารณาแผนให้รอบคอบ เพื่อนำมาเสนออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถออกพันธบัตรชุดแรกได้ในปีงบประมาณ 2558

+++ส่วนที่หลายคนกังวลว่า การออกพันธบัตรจำนวนมาก อาจจะกระทบการกู้เงินมาลงทุนในส่วนอื่น ในแง่ของเงินต้น คงไม่ได้กระทบมากนัก แต่อาจจะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ย ที่รัฐบาลจะกู้ต่อไป ซึ่งจะต้องดูในรายละเอียดว่าทำอย่างไรไม่ให้กระทบมาก ขณะที่ ระยะเวลาใช้หนี้คงยังประเมินไม่ได้ว่าจะเป็น 28 ปี หรือ 30 ปี เพราะต้องดูรายได้ในแต่ละปีที่รัฐบาลจะจัดเก็บได้ก่อน หากปีใดเก็บได้มากและสามารถใช้หนี้ได้มากก็มีโอกาสชำระได้หมดเร็วกว่า 30 ปี

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการทำงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 2/2557 ว่า เป็นการประชุมติดตามการทำงานของทุกส่วนราชการในรอบ 3 เดือน เบื้องต้น สรุปการทำงานระหว่างวันที่ 12 กันยายน-31 ตุลาคม 2557 โดยทุกกระทรวง ส่งรายงานครบแล้วทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การปฏิรูปประเทศ และการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งภาพรวมการทำงานด้านงบประมาณถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ประชุมมอบหมายให้มีเจ้าภาพหลักในการทำงานแต่ละด้าน เพื่อขับเคลื่อนแผนงานโครงการ เช่น งานด้านการปรองดอง มีกระทรวงมหาดไทย และกอ.รมน.เป็นเจ้าภาพ งานด้านการปฏิรูปให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายวิเคราะห์ ประเมินผลการทำงาน อย่างไรก็ตาม จะนำข้อมูลในวันนี้ สรุปและรายงานต่อนายกรัฐมนตรีก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขณะเดียวกันจะนำผลการวิเคราะห์การทำงานมาประชุมอีกครั้งในวันที่  19 ธ.ค.ส่วนการแถลงผลงาน คาดว่าเดือนม.ค. 2558

+++การประชุมคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วันที่ 17 พ.ย.จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การยาง และร่าง พ.ร.บ.อุ้มบุญ จากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี  เพื่อให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ต่อไป  สำหรับร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก หากเข้า ครม.วันที่ 18 พ.ย.นี้ ก็จะนำเข้าหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลอีกครั้ง จากนั้นจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นรับรอง ก่อนที่จะส่งไปยังวิป สนช.ต่อไป

+++นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสนช. หรือ (วิปสนช.) กล่าวถึงกรณี ที่คณะกรรมาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดอดีต ส.วทั้ง 38 คนและจะมีการส่งสำนวนมาให้สนช.พิจารณา ว่า กรณีนี้จะไม่มีการลงมติในที่ประชุมสนช.ว่าจะรับหรือไม่รับ เพราะเป็นกรณีเดียวกันกับของนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี2550 เรื่องที่มา ส.ว.ซึ่งมีการลงมติไปแล้วว่าสามารถรับเรื่องพิจารณาได้และต้องอยู่ที่ประธาน สนช.จะมีการบรรจุให้เป็นวาระพิจารณาวันไหน

+++ ส่วนที่ว่ามีอดีตส.ว.3 คน เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามของทั้ง สนช.และสปช.หรือไม่ก็ต้องไปดูแต่เมื่อนายวิชา มหาคุณ ประธาน ป.ป.ช.ระบุแล้วว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ก็ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ ส่วนเรื่องโทษ หากมีการพิจารณาว่าผิดจริง ตามที่ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วมีการลงมติว่าผิดจากที่ประชุมก็ต้องโดนตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี

+++บิดาของ 2 นักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่เสียชีวิตระหว่างการฝึกกระโดดร่ม เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ภายในค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากการดำเนินคดีของลูกชายไม่คืบหน้ากว่า 7 เดือนแล้ว แต่คดีดังกล่าวยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ ทั้งที่มีผลการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นออกมาแล้ว ว่า สาเหตุเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ โดยการดัดแปลง และติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นการทุจริตของผู้ที่รับผิดชอบ จึงมาขอความเป็นธรรม  ขณะที่บิดา นรต.อีกคนที่เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวผู้สูญเสียยังถูกข่มขู่ จึงเกรงว่าพนักงานสอบสวนที่ตั้งใจทำคดี จะถูกข่มขู่ด้วยเช่นกัน จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ สั่งการกำชับให้การดำเนินคดีเดินหน้าอย่างเป็นธรรมตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ให้สังคมได้ตระหนัก และให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน เพราะเหตุที่เกิดขึ้นไม่สามารถประเมินค่าได้

+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นมีเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจ อุ้มตัวนายเฉิน จี้ นักธุรกิจสองสัญชาติกัมพูชา-จีน ที่ห้างสรรพสินค้าย่านประตูน้ำ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.จริง โดยพฤติกรรมการก่อเหตุคล้ายกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งลงมือมากกว่า 2 คน โดยกล้องวงจรปิด บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าย่านประตูน้ำ สามารถจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ ซึ่งตำรวจสืบสวนนครบาล อยู่ระหว่างเร่งแกะรอยจากภาพวงจรปิด และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสาวไปยังผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจาก เป็นเรื่องที่อ่อนไหว และเกรงว่า จะเป็นอันตรายกับนายเฉิน รวมทั้ง ยังไม่ทราบสาเหตุในการอุ้มตัวครั้งนี้ สำหรับนายเฉิน เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 พ.ย.เพื่อติดต่อธุรกิจ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานว่า ถูกสะกดตามมาตั้งแต่ประเทศจีนหรือไม่

+++หุ้นไทย ปิดตลาดลบ1.33จุด ดัชนีอยู่ที่1,575.88จุด มูลค่าซื้อขาย4.7หมื่นล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ของญี่ปุ่น  ปิดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 7 ปีในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลง

 ดัชนีนิกเกอิเพิ่มขึ้น 98.04 จุด ปิดที่ 17,490.83 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2550

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนขานรับการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 17 พ.ย.ฮั่งเส็ง เพิ่มขึ้น 67.44 จุด ปิดที่ 24,087.38 จุด

+++นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน เช่น การบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยว การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐที่ดีขึ้น รวมถึงการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวดีขึ้นด้วย โดยคาดว่าปี 2558 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวร้อยละ 3.5-4 ส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนให้ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 15 คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 1,650 จุด แต่หากว่ามีปัจจัยบวกสนับสนุนเพิ่มดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

+++เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทางตะวันออกของอินเดียเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน และล้มป่วย 6 คน หลังจากรับประทานยาเม็ดปฏิชีวนะชุดเดียวกับที่แพทย์ให้แก่สตรีที่ทำหมันในโครงการของรัฐแล้วเสียชีวิต พวกเขามีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน และเท้าบวม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สตรีที่ทำหมันตามโครงการของรัฐแล้วเสียชีวิต 13 คน และอยู่โรงพยาบาลอีกกว่า 100 คน อาจเกิดจากยาปฏิชีวนะชุดเดียวกันนี้  ด้านทางการรัฐฉัตติสครห์ ได้จับกุมพ่อลูกที่เป็นเจ้าของผู้ผลิตยารายเล็กแห่งหนึ่งในเมืองไรปุระ เมืองเอกของรัฐและสั่งปิดโรงงานผลิตยา หลังจากพบว่ายาปฏิชีวนะไซโปรฟลอกซาซินของพวกเขาเป็นหนึ่งในยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้แก่สตรีในโครงการทำหมัน หนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดียรายงานว่า พ่อลูกคู่นี้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิด โดยแย้งว่ายาจากโรงงานของพวกเขามีคนรับประทานเป็นจำนวนมาก หากเป็นพิษจริงก็ควรจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้