*รบ.กำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับภัยแล้ง รวม31 จังหวัด กว่า 9,000 หมู่บ้าน*

การเตรียมรับมือและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม - เดือนเมษายน 2558  ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลได้เตรียมพร้อมในการเตรียมรับมือภัยแล้ง โดยจะเน้นการบูรณาการของทุกหน่วยงานรวมกัน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ร่วมกันแถลงด้วยพร้อมชี้แจ้งว่า จากตรวจสอบด้วยตัวชี้วัดฝนของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามี 9,535หมู่บัาน จะประสบภัยแล้งอย่างรุนแรง เนื่องจาก มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่าเกณฑ์ และเป็นหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งต่อเนื่องนาน3ปี

ด้านนายเลิศโรจน์  โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึง สถิติปริมาณฝนที่ตกในปี2557 พบว่า ตั้งแต่ต้นปี มีปริมาณค่าเฉลี่ยน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้น้ำต้นทุนที่จะใช้ในฤดูแล้งน้อยลง จึงมีการขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรัง ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่26จังหวัด เนื่องจาก จะต้องเน้นการใช้น้ำในการอุปโภคบริโภคเป็นหลักก่อน แต่รัฐบาล ได้เตรียมมาตราการรองรับซึ่งจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี ขออนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะให้เกิดการจ้างงานเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการส่งน้ำ ซึ่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเปิดรับสมัครจั้งแต่วันที่3พ.ย.จนถึงขณะนี้พบเกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมการจ้างงานของรัฐบาลกว่า16,000ราย

ส่วนนายนำชัย พรหมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร  กล่าวถึง มาตราการในการช่วยเหลือ เกษตรกรที่จะประสบภัยแล้ง ว่า  จะมีการสนับสนุนให้ความรู้ฝึกอาชีพ และ สนับสนุนพันธุ์สัตว์ต่างๆ เพื่อให้เกิดการประกอบอาชีพอื่นในช่วงที่ประสบภัยแล้งได้ ซึ่งมาตรการนี้จะเริ่มนำร่องในวันที่21 พ.ย. ที่จังหวัดชัยนาท สุพรรณ พิษณุโลก

ส่วนการเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้วในช่วงต้นปี2558 หลายหน่วยงานร่วมกันบูรณาการเตรียมดูแล นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมมาตราการเตรียมรับมือภัยแล้งในพื้นที่การใช้น้ำนอกเขตชลประทาน โดยในพื้นที่ที่ไม่มีบ่อบาดาล เริ่ม มีการสูบน้ำต่อท่อให้ประประชาขนใช้แล้ว121จุด รวมถึงมีการแจกจ่ายน้ำผ่านรถของภาครัฐ และขุดลอกคูคลอง ส่วนการจัดระบบน้ำดื่มสะอาดในพื้นที่ที่ไม่มีระบบประปา

นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ขณะนี้ กำลังดำเนินจัดทำระบบน้ำสะอาดในพื้นที่ คาดว่าจะเกิดภัยแล้ง ทั้ง 31 จังหวัด

ด้านพันเอกคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับสั่งการ การแก้ปัญหาภัยแล้ง ว่าจะต้องดำเนินการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยให้มีการบูรณาการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ตามที่ตั้งของหน่วยงานย่อย และให้ตั้งศูนย์ดูแลปัญหาภัยแล้งในทุกจังหวัด และแบ่งการทำงานออกเป็นเชิงป้องกันกับเชิงการช่วยเหลือเฉพาะหน้า พร้อมเตรียมหน่วยแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อาจสบปัญหาโรคที่เกิดในช่วงฤดูแล้งในพื้นที่เป้าหมาย31จังหวัด นอกจากนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม ได้จัดตั้งกลุ่มไลน์ ที่มีชื่อว่า ศบภ.กห.พลเรือน-ทหารเพื่อเป็นช่องทางการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ และเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือให้ทันต่อสถานการณ์

บุศรินทร์