การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน อภิปรายไม่เห็นด้วย โดยทั้งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พรรคเพื่อไทย ต่างขอให้รัฐบาลกลับไปทบทวนงบปี 2563 ใหม่ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ เสนอให้ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพิ่มสัดส่วนงบลงทุน เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ปี 2563 ได้ตามเป้าที่วางไว้ 2 ล้าน 7 แสนล้านบาท เพราะตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศเจอหลายปัจจัยรุมเร้า โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อยส่งผลให้ไม่มีเงินใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิ่งสวนทางกับความคาดหวังการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปี 2563
ด้านส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อย่างนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า งบปี 2563 ควรปรับอีกหลายส่วน เพราะบางส่วนไม่ชัดเจนว่าจะนำไปทำสิ่งใดและบางส่วนน้อยไป เช่น การศึกษาด้านการวิจัยและพัฒนาที่ควรเพิ่มเช่นเดียวกับการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออกไปยังตะวันตก(อีสท์-เวสต์ คอริดอร์) รวมทั้งรัฐบาลต้องนำปัจจัยภายนอกประเทศ มาคำนวณเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้า และการแก้ปัญหาเงินบาทไทยที่แข็งค่าที่ได้รับผลพวงมาจากการปรับนโยบายเศรษฐกิจของต่างประเทศ
ส่วนนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ แต่เสนอของบกลางปีมากขึ้นเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องสาธารณูปโภคและฝากรัฐบาลให้เร่งทำสองเรื่อง คือ การพัฒนาตู้โบกี้รถไฟให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ช่วยแก้ปัญหาการจัดการน้ำ
ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานในการประชุมกำชับให้ทุกฝ่ายคำนึงเวลาที่จะแสดงความเห็น หลังเริ่มประชุมไม่นานก็พบว่าพรรคฝ่ายค้านแสดงความเห็นเกินเวลาอย่างนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ ที่ใช้เกินไป 11 นาที โดยย้ำว่าจะไม่ทดเวลาให้ฝ่ายใด ดังนั้นหากสมาชิกฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลคนใดยิ่งพูดนาน คนที่พูดทีหลังก็อาจจะไม่ได้พูด