เกษตรกรที่ค้านมติแบน3สารเคมี ขอเวลารัฐบาลยืดเวลาออกไปอีก 2 ปี ก่อนยกเลิกการใช้

          การแสดงจุดยืนเกี่ยวกับ 3 สารเคมีทางการเกษตรคือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส มี 2 ด้านคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดให้มีผลวันที่ 1 ธันวาคม 2562 หลังจากตรวจสอบพบว่าเป็นอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม

          ด้านนางวรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮาส์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว รัฐบาลควรให้ระยะเวลาเอกชนและเกษตรกรอย่างน้อย 2 ปี การยกเลิกสารเคมีวันที่ 1 ธันวาคมนี้ อาจทำให้ภาคการเกษตรเสียหายอย่างมาก เพราะยังไม่มีสารใดมาทดแทนและสารที่เสนอให้ทดแทนเป็นสารที่มีราคาสูงถึง 6 เท่า จะทำให้เกษตรกรมีต้นทุนสูงขึ้น และรัฐบาลควรให้เวลาเอกชนในการจัดสต๊อกสินค้าคงค้างประมาณ 40,000 ตัน ทำให้รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายทำลายสารดังกล่าวประมาณ 5,000 ล้านบาท ค่าขนย้ายเช่าโกดังเก็บสินค้าอีก 5,050 ล้านบาท และค่าชดเชยเกษตรกรอีกประมาณ 3 เท่าของราคาสินค้า ขณะที่ กลุ่มเกษตรกรพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น มันสำปะหลัง มะม่วง ข้าวโพด อ้อย เป็นต้น ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ไม่ว่ามติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะออกมาอย่างไร พร้อมยอมรับและปฏิบัติตาม แต่อยากให้พิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกษตรกรเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ยืนยันว่า เกษตรกรที่ใช้สารเคมีมีวิธีในการป้องกันตัวเอง