*ผู้นำกลุ่มไอเอส แพร่คลิปสวนกระแสบาดเจ็บหนัก/โอบามาพบ ซูจีวันนี้ /ชายญี่ปุ่นเผาตัวตายต่อต้านนโยบายทหาร*

 *ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++ กลุ่มรัฐอิสลามเมื่อวันพฤหัสบดี(13พ.ย.) แพร่เทปบันทึกเสียงอ้างว่าเป็นของนายอบู บาการ์ อัล-บักดาดี ไม่กี่วันหลังมีข่าวลือว่าผู้นำรายนี้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางอากาศของพันธมิตรนานาชาติถล่มจุดชุมนุมของเหล่าแกนนำ โดยครั้งนี้เขาเรียกร้องให้เหล่าลูกสมุนโจมตีซาอุดีอาระเบีย  ในเทปเสียงความยาว 17 นาที ชายผู้อ้างตัวว่าเป็นนายบักดาดี ไม่ได้พาดพิงเหตุการณ์ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเหล่าแกนนำของไอเอส แต่พูดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ในนั้นรวมถึงกรณีที่ประธานาธิบดีประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน อนุมัติส่งทหารอเมริกันเข้าไปยังอิรักเพิ่มเติมอีก 1,500 นาย

+++ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ขอให้คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติทบทวนนโยบายสหรัฐฯต่อกรณีซีเรีย หลังประเมินว่าการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม(ไอเอส)ของสหรัฐฯในขณะนี้อาจจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จ ถ้าหากยังไม่มีถ่ายโอนอำนาจการเมืองเกิดขึ้นในซีเรีย เนื่องจากผู้นำสหรัฐฯมองว่ารัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย ขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศมานานแล้ว

+++รัสเซียและยูเครน ต่างกล่าวหากันและกันไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่รัสเซียเตือนหากคืนสู่ความเป็นปรปักษ์กับพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออก ยูเครนก็อาจต้องเผชิญกับหายนะเลวร้าย ท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและเหตุละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง ล่าสุดเกี่ยวกับรายงานขบวนทหารไม่ทราบฝ่ายกำลังเดินทางจากพรมแดนรัสเซียข้ามไปยังยูเครน

+++กระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์ แถลงความคืบหน้า กรณีที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชเนเธอร์แลนด์ รายงานพบศพผู้เสียชีวิต ในบริเวณที่เครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกทางตะวันออกของยูเครน เจ้าหน้าที่ใช้เครนยกซากเครื่องบินออก จึงพบชิ้นส่วนอวัยวะติดอยู่ สำหรับชิ้นส่วนอวัยวะที่พบถูกนำส่งไปที่คาร์คิฟเพื่อตรวจสอบทางนิติเวชในขั้นตอนแรก จากนั้นจึงจะส่งมาที่เนเธอร์แลนด์เพื่อตรวจสอบต่อไป แต่ในการกู้ซากเครื่องบินยังจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หนัก และมีจำนวนผู้เชี่ยวชาญเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำเครื่องมือเข้าไปในพื้นที่ เพราะมีการสู้รบ

+++อีโบล่า ไลบีเรีย ยกเลิกภาวะฉุกเฉินเพื่อความอยู่รอดของชาติที่ประกาศเมื่อ 3 เดือนก่อนท่ามกลางการแพร่ระบาดของอีโบลา หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดอย่างฉับพลัน แต่ยังไม่ลดระดับมาตรการป้องกันลง โดยจะยังคงบังคับใช้เคอร์ฟิวต่อไป  ถ้อยแถลงที่มีออกมาหลังจากพบอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าไลบีเรียมีความเชื่อมั่นว่าพวกเขากำลังมีชัยเหนือไวรัสมรณะที่คร่าชีวิตประชาชนในประเทศเกือบ 3,000 ศพ

++++ราคาน้ำมันโลก ทำสถิติต่ำสุดอีกแล้ว ในรอบกว่า 4 ปี หลังพบปริมาณการผลิตเชื้อเพลิงสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2010 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดต่ำกว่า 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกตั้งแต่กันยายน 2010 

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(13พ.ย.) ปิดบวกพอสมควรดัชนี ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 40.59 จุด ปิดที่ 17,652.79 จุดราคาทองคำวานนี้(13พ.ย.) ทรงตัวในกรอบแคบๆ นักลงทุนทบทวนข้อมูลผู้ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์จากการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 290,000 คน เหนือกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับใกล้ๆต่ำที่สุดในรอบ 14 ปีและยังต่ำกว่า 300,000 คนเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,161.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

+++ประธานาธิบดีบารัก โอบามาจะร้องขอให้รัฐบาลเมียนมาร์อนุญาตให้คนไร้รัฐไร้สัญชาติ ชาวมุสลิมโรฮิงญา ได้รับสัญชาติเมียนมาร์ หลังผู้นำสหรัฐฯแสดงความเป็นกังวลต่อชนกลุ่มนั้น  ก่อนหน้านี้ ร่างแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหาในรัฐยะไข่ของรัฐบาลระบุว่า รัฐบาลจะกำหนดให้ชาวโรฮิงญาระบุตนเองว่า เป็นชาวเบงกาลีหรือผู้ลักลอบเข้าเมืองจากบังกลาเทศ ในการสมัครเป็นพลเมืองสัญชาติเมียนมาร์ ส่วนคนที่ปฏิเสธจะถูกกักอยู่ในค่ายอพยพต่อไป ขณะที่ในวันนี้ ผู้นำสหรัฐ จะพบกับนางอองซานซูจี ที่ กรุงย่างกุ้ง ก่อนหน้า ผู้นำสหรัฐให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ข่าวอิระวดีว่า ในขณะที่มีความคืบหน้าของการปฏิรูปด้านการเมืองและเศรษฐกิจในพม่า เช่น การปล่อยนักโทษการเมือง กระบวนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ และข้อตกลงหยุดยิงกับชนกลุ่มน้อย แต่ในด้านอื่น เช่น เสรีภาพสื่อ และสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อยยังคงมีควาล่าช้าหรือถอยหลัง ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ยังไร้ที่อยู่อาศัย

+++นายแพทย์อาร์เค.กุปตา ถูกควบคุมตัวในรัฐฉัตติสครห์ ทางตอนกลางของอินเดีย เพื่อสอบสวนกรณีทำหมันให้กับคนไข้หญิงในหน่วยแพทย์เมื่อสุดสัปดาห์ แล้ว นายแพทย์กุปตาได้ลงมือทำหมันคุมกำเนิดให้กับคนไข้หญิง83รายภายในเวลาเพียง5ชม. ซึ่งคิดค่าใช้จ่ายคนละ1,400รูปี(736บาท) ภายใต้แผนรณรงค์การคุมกำเนิดของรัฐบาลอินเดียเพื่อควบคุมจำนวนประชากร หลังจากนั้นพบว่ามีคนไข้หญิงเสียชีวิตแล้ว13ราย และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกหลายสิบราย  รัฐบาลหลายรัฐได้ตั้งหน่วยแพทย์ขึ้นในท้องที่ชนบทเพื่อบริการทำหมันให้แก่ประชาชน  แต่ก็พบว่า มีผู้หญิงถูกข่มขู่ให้ทำหมันทั้งที่ไม่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ เพียงเพื่อหวังให้บรรลุเป้าหมายโครงการที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งใช้เงิน รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับการทำหมันคุมกำเนิด

+++ชายชาวญี่ปุ่นจุดไฟเผาตัวเองจนเสียชีวิต เมื่อคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อประท้วงการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการทหาร จากที่เมื่อเดือนกรกฎาคม คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เห็นชอบการแก้ไขนโยบายการรักษาความมั่นคงเพื่อให้สามารถส่งทหารไปเข้าร่วมการสู้รบในต่างประเทศได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นหลังการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้ง 2 กำหนดห้ามญี่ปุ่นใช้กำลังทหารเว้นแต่การป้องกันตนเองเท่านั้น ซึ่งในระหว่างการที่มีการพิจารณาเรื่องนี้ในเดือนมิถุนายน ก็มีชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งจุดเผาไฟเผาตนเองในลักษณะเดียวกัน ในย่านชินจูกุ แต่ผู้ก่อเหตุรอดชีวิต  สื่อในญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า ชายผู้นี้ก่อเหตุที่สวนสาธารณะฮิบิยะในกรุงโตเกียว ซึ่งอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล มีผู้พบเห็นเหตุการณ์จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เขาเสียชีวิตในระหว่างการดูแลรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะพบบันทึกที่มีความเกี่ยวกับการคัดค้านการทหารส่งถึงนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ และแกนนำการเมืองตลอดจนพบกล้องวิดีโอ

+++หลังจากสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงจอดบนดาวหางแม้ไม่ราบรื่นมากนัก แต่ยานสำรวจ“ฟีเล” ขณะนี้ ทรงตัวได้แล้วและสามารถส่งภาพดาวหาง“67พี/เซอร์ยูมอฟเจราซีเมนโก”กลับมายังห้องปฏิบัติการในเมืองดาร์มชตัดท์ได้แล้วด้วยแต่ก็ยังมีความวิตกกังวลอยู่เกี่ยวกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี  เพราะยานไปลงจอด บริเวณใต้เงาของหน้าผาแห่งหนึ่งห่างจากเป้าหมายที่กำหนดไว้1 กิโลเมตร ทำให้เกิดปัญหาแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอในการชาร์จแบตเตอรี

สำนักงานอวกาศยุโรปหรืออีซา ซึ่งเริ่มภารกิจนี้เมื่อปี2547หวังว่าจะเรียนรู้เกี่ยวกับการก่อเกิดของระบบสุริยะยานฟีเลได้ส่งภาพแรกที่ถ่ายบนพื้นผิดของดาวหางดวงนี้มายังโลกแล้วพร้อมกับ ข้อมูลจำนวนมากจากอุปกรณ์ที่แตกต่างกันมากมายที่ติดไปกับตัวยานฟีเล ที่ถูกปล่อยออกจากยานโรเซตตาซึ่งเป็นยานแม่หลังออกเดินทางจากโลกเมื่อเดือนมี.ค.2547 เพื่อติดตามดาวหาง “67พี/เซอร์ยูมอฟเจราซีเมนโก” อายุราว 4พันล้านปี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว4 กิโลเมตรและเดินทางอยู่ในห้วงจักรวาลด้วยความเร็ว18 กิโลเมตรต่อวินาที