หลังจากที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้รับคัดเลือกจากมูลนิธิบลูมเบิร์กเพื่อสาธารณะประโยชน์ ให้เป็น1ใน10เมืองที่เข้าร่วมโครงการความริเริ่มเพื่อความปลอดภัยทางถนนทั่วโลก เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2558 - 2562 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่ถนนเยาวราช พื้นที่ที่มีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมากทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เป็นย่านถนนคนเดิน มีร้านค้าจำนวนมาก อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ นายสกลธี กล่าวว่า เดิมบริเวณวัดมังกรกมลาวาสไปจนถึงแยกหมอมี ระยะทางประมาณ 300-400เมตร มีผู้ค้าจำนวนมาก บางรายรุกล้ำขายของบนทางเท้า ทำให้ประชาชนลงมาเดินบนถนน ไม่ข้ามทางม้าลาย สถิติย้อนหลัง 3 ปี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากถึง 100 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดช่วงเวลา18.00 - 22.00 น. จึงมอบหมายให้สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์และสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ทำความเข้าใจกับผู้ค้าในการยกเลิกจุดผ่อนผันและจัดหาพื้นที่ใกล้เคียงให้ขายของ รวมถึงปรับปรุงป้ายบอกทาง ตีเส้นทางม้าลาย ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน จากนั้นจะนำสถิติการเกิดอุบัติเหตุมาประเมินอีกครั้ง หวังว่าอุบัติเหตุจะลดลงและจะจัดเป็นพื้นที่นำร่องสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนก่อนที่จะขยายไปยังจุดอื่นๆที่มีระบบขนส่งมวลชนเข้าถึง เพื่อให้กทม.มีความปลอดภัยอยู่ในระดับ 3 ดาวขึ้นไป นอกจากนี้จะหารือกับตำรวจนครบาลปิดการจราจรบางวันและจัดทำถนนคนเดินในพื้นที่ที่มีการค้าขายจำนวนมากและนักท่องเที่ยวคักคึกด้วย เช่น ถนนข้าวสาร ถนนเยาวราช เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ มีการปรับปรุงบริเวณแยกแปลงนามและบริเวณทางแยกหมอมี มีการทาสีทางม้าลายใหม่ให้ชัดเจน ติดตั้งสัญญาณไฟทางข้าม ปรับสภาพทางเท้าและติดตั้งทางลาดสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ

นางนวลอนงค์ พันธุ์กำแหง ตัวแทนมูลนิธิบลูมเบิร์กเพื่อสาธารณะประโยชน์ ระบุว่า กทม.ได้สำรวจถนนเส้นหลักและดำเนินการปรับปรุงกายภาพไปแล้ว คือ ถนนอโศก ถนนสีลม ถนนลาดกระบัง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และจะดำเนินการต่อไปหลังจากปีนี้ กทม.จะครบกำหนดที่จะเข้าร่วมโครงการ

รศ.ดร.เกษม ชูจารุกุล รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้จัดการศูนย์ความเป็นเลิศ ThaiRAP มองว่า อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ หากถนนดี มีมาตรฐาน จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และต้องคำนึงถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์และคนที่ใช้ทางเท้าด้วย

การลดอุบัติเหตุและการจัดระเบียบถนนเยาวราช สามารถทำได้ด้วยการตั้งแผงกั้นแบ่งเขต 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเริ่มนำระบบ IRAP หรือการวัด Rating มาตรฐานถนน 5 ดาวมาใช้ มองว่า ถ้าพัฒนาปรับปรุงได้เพิ่มขึ้นเพียง 1 ระดับ จะช่วยลดอุบัติเหตุความสูญเสียลงได้ครึ่งหนึ่ง ถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยเป้าหมายประเทศไทยมุ่งส่งเสริมและพัฒนาถนนที่มีความปลอดภัยระดับ 3 ดาวขึ้นไปภายในปี 2030 และใช้งบลงทุนต่อปีร้อยละ0.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ต่อปี จะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้ถึงปีละ 8,930 คน
ข่าวทั้งหมด