ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขัดขวางพยานเข้าให้ปากคำไต่สวนถอดถอน

09 ตุลาคม 2562, 07:59น.


          ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นายกอร์ดอน ซอนด์แลนด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหภาพยุโรป เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการสภาคองเกรส ในกระบวนการไต่สวนถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง แม้ว่านักการทูตจะตอบตกลงเข้าให้ปากคำด้วยความสมัครใจ เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มสนทนาของนักการทูต ที่พูดคุยกันว่าใช้โอกาสที่ประธานาธิบดีทั้ง 2 คนพูดคุยกัน เรียกร้องให้ฝ่ายยูเครนสอบสวนนายโจ ไบเดนและบุตรชาย ตามที่ก่อนหน้านี้ ทนายความของนายซอนด์แลนด์ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีคำสั่งห้ามนายซอนด์แลนด์ไปสภาคองเกรส เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะถึงกำหนดเวลานัด



          ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ยอมรับว่า การไม่อนุญาตให้นักการทูตไปให้ปากคำเป็นเรื่องจริง เพราะเขาเห็นว่า สภาคองเกรสคือศาลเตี้ยที่ไม่เคารพสิทธิของรีพับลิกัน และไม่ยินยอมให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริง



          โดยในขณะนี้ สภาคองเกรส กำลังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์กดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน สอบสวนนายโจ ไบเดน และบุตรชายซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทน้ำมันในยูเครน เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีหน้า เนื่องจากนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตคือคู่แข่งคนสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งนายอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า การกีดกันพยานนักการทูตเข้าให้ปากคำ คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดของการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของสภาคองเกรส





 

ข่าวทั้งหมด

X