นักวิชาการระบุ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน จะทำให้มีนักลงทุนย้ายฐานการผลิตมาไทยเพิ่มขึ้นอีก

08 ตุลาคม 2562, 13:09น.


          การทำสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทย นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจจีน ธนาคารไทยพาณิชย์ มองในมุมเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจจีนกำลังทรุดลง เห็นได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ที่กำลังถดถอย แต่การปรับโครงสร้างทางธุรกิจจะกลายเป็นโอกาสของประเทศไทยในสองทาง คือทำให้ไทยมีช่องทางเข้าไปเจาะตลาดในจีนได้มากขึ้น เพียงแต่นักลงทุนไทยต้องมองความต้องการของตลาดให้ออก และในประเทศไทยเองจะมีนักลงทุนจีนย้ายฐานการผลิตและการลงทุนเข้ามามากขึ้นเพื่อหนีผลกระทบจากสงครามการค้า ประเมินว่าภายใน 5 ปีจากนี้การลงทุนจากจีนจะเข้าไทยในทุกด้านและจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้าไทยเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 20 ล้านคนต่อปี


          ด้านนายอาร์ม ตั้งนิรันดร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองในมุมความมั่นคงว่า ตอนนี้สหรัฐฯไม่ใช่ผู้นำเดี่ยวของโลกแล้ว และโลกอาจเข้าสู่สงครามเย็นรอบที่ 2 โดยมั่นใจว่าสงครามการค้ารอบนี้จะกินเวลานาน และมีความผันผวนสูง เนื่องจากทั้งสองประเทศทำการค้าเชื่อมโยงกัน ทำให้ยังต้องพึ่งพาอาศัยกัน แต่ในอีกทางก็แข่งกันไปด้วย ขณะที่การทำสงครามกันรอบนี้สหรัฐฯมองจีนเป็นภัยคุกคามมากกว่าในช่วงสงครามเย็นที่สู้กับสหภาพโซเวียต เนื่องจากตอนนี้จีนเป็นหนึ่งในผู้นำด้านต่าง ๆ และในทุกด้านจีนก็มีศักยภาพที่สูงมาก 


          นักวิชาการ ระบุว่า การทำสงครามการค้าในขณะนี้เป็นการสู้กันทั้งการค้า การพัฒนาเทคโนโลยีและความมั่นคง โดยยกตัวอย่างถึงกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยประกาศห้ามนำเข้าโทรศัพท์มือถือหัวเว่ย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลในเรื่องเทคโนโลยี และความเสี่ยงที่จะเข้าถึงข้อมูลความมั่นคงของประเทศ


....


แฟ้มภาพ
ข่าวทั้งหมด

X