ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันอังคารที่ 8 ตุลาคม 2562

08 ตุลาคม 2562, 05:53น.


สหรัฐฯถอนทหารออกจากพื้นที่ทางเหนือซีเรีย



          กองทัพสหรัฐฯในซีเรียเริ่มถอนกำลังออกจากพื้นที่ตอนเหนือที่ติดต่อกับชายแดนตุรกี เพื่อเปิดทางให้ตุรกีเคลื่อนกำลังทหารเข้าสู่พื้นที่ แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นการทอดทิ้งกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียที่ร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ ปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส เนื่องจากกลุ่มกองกำลังชาวเคิร์ดเป็นกลุ่มที่ตุรกีระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้าย



          การเคลื่อนไหวของกองทัพสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เอร์โดอาน แห่งตุรกี โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรื่องเขตปลอดภัยบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรตีสในซีเรีย และมีกำหนดหารือเพิ่มเติมที่กรุงวอชิงตันในเดือนหน้า



          ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเอร์โดอาน ประกาศว่าจะโจมตีภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย และวิจารณ์สหรัฐฯ ว่าไม่ช่วยผลักดันการจัดตั้งเขตปลอดภัยเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธเคิร์ด และเพื่อสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการส่งผู้ลี้ภัยซีเรียกลับบ้าน



          สงครามซีเรียที่ยืดเยื้อมานานถึง 8 ปีทำให้พลเมืองซีเรียราว 3 ล้าน 6 แสนคนหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าไปยังฝั่งตุรกี ซึ่งทางการตุรกีตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถส่งกลับประมาณ 2 ล้านคนมาอยู่ในเขตปลอดภัย



          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความระบุว่า สหรัฐฯจะทำลายเศรษฐกิจของตุรกี หากตุรกีใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีทางตอนเหนือของซีเรียจนเกินขอบเขต หลังจากที่แกนนำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน รวมทั้งผู้นำวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกคำสั่งให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า การถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ก็เพราะสหรัฐฯมีค่าใช้จ่ายมากเกินไปในการสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ดในปฏิบัติการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส



ตุรกีท้วงสหรัฐฯ กดไลค์ข้อความสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล



          กระทรวงการต่างประเทศของตุรกี เชิญนายเจฟฟรีย์ โฮวีเนียร์ อุปทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงอังการา เข้าพบหารือและรับทราบความวิตกกังวล หลังบัญชีทวิตเตอร์ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงอังการา กดชื่นชอบข้อความทวิตเตอร์ ซึ่งระบุให้ชาวตุรกีเตรียมตัวรับมือกับการเมืองยุคใหม่ที่ไม่มีนายเดฟเลต บาห์เซลี หัวหน้าพรรคการเคลื่อนไหวแห่งชาติ ซึ่งมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อไม่นานมานี้ โดยนายบาห์เซลี เป็นผู้สนับสนุนทางการเมืองคนสำคัญของประธานาธิบดีเอร์โดอาน ซึ่งตุรกีเห็นว่าเป็นการแทรกแซงการเมือง



          ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯออกแถลงการณ์ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาตุรกี ขอโทษและยกเลิกการกดชื่นชอบข้อความทวิตเตอร์นั้น ทั้งยืนยันว่าไม่ได้มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาลตุรกี



ศาลฮ่องกงพิจารณาคดีผู้ประท้วง



          ศาลชั้นต้นฮ่องกง พิจารณาคดีนักศึกษามหาวิทยาลัยชาย 1 ราย และสุภาพสตรีวัย 38 ปี อีกราย ในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายในภาวะฉุกเฉิน ด้วยการเข้าร่วมในการชุมนุมประท้วงโดยไม่ได้รับอนุญาตและสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อปกปิดอัตลักษณ์ หลังจากมีการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินให้อำนาจรัฐบาลออกกฎข้อบังคับใดเพื่อความสงบสุขในสังคม โดยการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ส่วนข้อหาสวมหน้ากากอนามัยระวางโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี



          สำหรับทั้ง 2 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากอนามัยร่วมการชุมนุมในย่านการค้า แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็จะสลายตัวหลบหนี แล้วร่วมการชุมนุมในอีกจุดหนึ่ง และทำให้เกิดความวุ่นวายหลายแห่งเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม ซึ่งยังพบการทำลายทรัพย์สินทั้งของราชการและเอกชน และการยิงเลเซอร์รบกวนที่อาคารสำนักงานตัวแทนรัฐบาลจีนประจำฮ่องกง ทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงต้องขึ้นป้ายเตือนเป็นครั้งแรก



          นอกจากนี้ คณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกำลังพิจารณาเรื่องการจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารของผู้ประท้วง ซึ่งอ้างว่าไม่มีผู้นำแต่มีการติดต่อสื่อสารผ่านสื่อสังคมเพื่อปลุกระดม และนัดรวมกลุ่มเคลื่อนไหว แต่ก็มีคำเตือนว่า การจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจในฮ่องกง



นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ไม่เลื่อนเบร็กซิต



          นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร ประกาศว่าจะไม่เลื่อนเวลาการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือที่เรียกว่าเบร็กซิตที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการยืนยันแผนเบร็กซิต ที่เขานำเสนอต่ออียูฉบับล่าสุด ซึ่งอียูระบุว่า มีเงื่อนไขหลายข้อที่จะต้องมีการเจรจากัน นอกจากนี้เมื่อเดือนก่อนรัฐสภาสหราชอาณาจักร จะให้อำนาจนายกรัฐมนตรีขยายเวลาเบร็กซิต และในระหว่างวันที่ 17-18 ตุลานี้จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอียู



ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง ขณะที่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนยังกดดันตลาดหุ้น



          ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง เนื่องจากสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้าน 6 แสนบาร์เรลชี้ถึงอุปสงค์อ่อนแอ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ นักลงทุนติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคมนี้



          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 58.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 95.70 จุด หรือร้อยละ 0.36 ปิดที่ 26,478.02 จุด



          เอสแอนด์พี ลดลง 13.22 จุด หรือร้อยละ 0.45 ปิดที่ 2,938.79 จุด



          แนสแดค ลดลง 26.18 จุด หรือร้อยละ 0.33 ปิดที่ 7,956.29 จุด



 ....

ข่าวทั้งหมด

X