สมาคมนักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ(NABE)ของสหรัฐฯ ที่มีสมาชิก 2,800 คน คาดว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงนี้ จากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว สถาบันบริหารการจัดการอุปาทานแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐฯลดลง 2 เดือนติดต่อกัน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 ขณะที่ภาคบริการของสหรัฐฯก็ชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน ทำให้คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโตเพียงร้อยละ 2.3 เทียบกับเมื่อปีที่แล้วที่ร้อยละ 2.9 ส่วนในปีหน้าขยายตัวร้อยละ 1.8 ต่ำกว่าร้อยละ 2 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประเด็นที่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะ 12 เดือนข้างหน้าหรือไม่ มีการคาดการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่แม้ว่าจะยังไม่ระบุชัดเจน แต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นในช่วงปลายปีหน้า เศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตติดต่อกันมา 11 ปีแล้ว นับว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ขณะที่ธนาคารกลางหรือเฟดของสหรัฐฯได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งหลังสุดคือเมื่อเดือนกันยายน ลดลง ร้อยละ 0.25 เพื่อเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในปัจจุบันอยู่ระหว่างร้อยละ 1.75-2