ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ในระหว่างการประท้วงของชาวอิรัก ที่เกิดขึ้นในกรุงแบกแดด และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า การสูญเสียชีวิตนั้นต้องยุติลง และควรนำตัวผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการเกิดเหตุรุนแรง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ด้านคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนประจำรัฐสภาอิรัก ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงอยู่ที่อย่างน้อย 99 ราย และบาดเจ็บเกือบ 4,000 คน นับตั้งแต่เกิดการประท้วงในกรุงแบกแดด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ก่อนขยายไปยังหลายเมืองทางตอนใต้ นับเป็นเหตุวุ่นวายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอิรัก หลังจากกลุ่มรัฐอิสลามประกาศความพ่ายแพ้ในอิรัก เมื่อปี 2560
สำหรับการชุมนุมประท้วงในกรุงแบกแดดและเมืองอื่นๆ ยังคงมีขึ้นต่อเนื่อง วานนี้ (5 ต.ค.) ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของอิรักใช้ทั้งการฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา กระสุนจริง และกระสุนยาง ในรับมือกับกลุ่มผู้ประท้วง นอกจากนี้ มีสถานีโทรทัศน์จำนวนมากถูกโจมตี ซึ่งรวมถึงสถานีโทรทัศน์อัล-อราบิย่า ของซาอุดิอาระเบีย
ทั้งนี้ การประท้วงในอิรักมีขึ้นจากความไม่พอใจและความวิตกของชาวอิรักในหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงการทุจริต การว่างงาน และบริการของรัฐที่ย่ำแย่ โดยกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและผู้ที่มีอายุน้อย ยืนยันว่า การประท้วงครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือศาสนาใดทั้งสิ้น
...