ผู้บริหารฮ่องกงใช้กฎหมายฉุกเฉินเพื่อสกัดเหตุรุนแรง ขณะที่สหประชาชาติเรียกร้องให้สอบสวนเหตุรุนแรง

06 ตุลาคม 2562, 07:42น.


          นางแคร์รี่ แลม ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวผ่านทางคลิปวิดีโอ ที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ในฮ่องกง วานนี้ (5 ต.ค.) การก่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในฮ่องกง เป็นสิ่งที่อธิบายได้ถึงการตัดสินใจของเธอในการประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งศตวรรษ พร้อมทั้งกล่าวว่า พฤติกรรมร้ายแรงของกลุ่มก่อจลาจล นำฮ่องกงเข้าสู่คืนที่มืดมนหนัก และทำให้ฮ่องกงเป็นอัมพาตไปครึ่งหนึ่ง



          ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงพากันออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนสายต่างๆ ทั่วฮ่องกง และยังคงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า แม้รัฐบาลฮ่องกงประกาศห้ามการสวมหน้ากาก หรือการปิดบังใบหน้า ในระหว่างการชุมนุมประท้วงก็ตาม ขณะที่มีการส่งข้อความเวียนผ่านทางอินเทอร์เน็ต เรียกร้องให้ชาวฮ่องกงออกมาชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ มากกว่า 20 จุด ซึ่งรวมถึงในย่านคอสเวย์ เบย์ ,จิม ซา จุ่ย และซา ถิ่น 



          นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงยังทำลายทรัพย์สินของกลุ่มร้านค้า ที่ถูกระบุว่าให้การสนับสนุนรัฐบาลจีน ขณะที่บรรดาศูนย์การค้า ร้านค้าทั่วไป และธนาคาร พากันปิดทำการ เช่นเดียวกับเครือข่ายรถไฟใต้ดินทั้งหมดที่ระงับการเดินรถ อย่างไรก็ตาม สถานีรถไฟใต้ดิน 45 สถานี จาก 93 สถานีของ MTR Corporation จะกลับมาเดินรถวันนี้ (6 ต.ค.) และจะหยุดเดินรถในเวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มเวลาซ่อมแซมสถานีที่เสียหาย



          ด้านนางมิเชล บาเชเล็ต ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮ่องกงสอบสวนอย่างเป็นอิสระ หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในการประท้วง ซึ่งรวมถึงผู้ประท้วงวัยรุ่นถูกยิง 2 คน และผู้สื่อข่าวหญิงชาวอินโดนีเซียสูญเสียการมองเห็นที่ดวงตาขวา เนื่องจากถูกกระสุนยาง พร้อมทั้งระบุว่า การที่มีผู้บาดเจ็บทั้งตำรวจ และผู้ประท้วง รวมทั้งมีผู้ประท้วงและสื่อมวลชนถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นสิ่งเตือนถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น



...

ข่าวทั้งหมด

X