ทิศทางการบริหารทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำยม ภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ บอกว่า ความสำคัญของน้ำคือป่าที่เป็นต้นน้ำ แต่ในลุ่มน้ำยมตอนบนมีการตัดไม้จำนวนมาก ส่วนระหว่างทางต้นน้ำถึงปลายน้ำก็มีปัญหาสำคัญที่ไม่สามารถบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำยมได้อย่างเป็นระบบ ทั้งยังมีปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมอยู่ประจำ ดังนั้นต้องพยายามดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและบูรณาการการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำควบคู่ไปกับการอาศัยเทคโนโลยีจากต่างประเทศทั้งต้องเร่งศึกษาเส้นทางน้ำที่เปลี่ยนไปของลุ่มน้ำยมถึง 23 เส้นทางที่เป็นผลมาจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วย
นายเดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยและพัฒนาบูรณาการการเกษตรและสิ่งแวดล้อม คณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร เสริมว่า โครงการด้านน้ำ จะทำต้องเริ่มจากการรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่และต้องมองถึงปัจจัยต่างๆในพื้นที่ควบคู่กันไปด้วยทั้งปัจจัยสังคมและสิ่งแวดล้อม และสำหรับโครงการพัฒนาแหล่งเก็บน้ำในลุ่มน้ำยมก็ต้องฟังความเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯด้วย เนื่องจากปริมาณลุ่มน้ำยมส่งผลถึงน้ำที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่หากบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำยมไม่ดีก็จะทำให้กรุงเทพฯเสี่ยงน้ำท่วมมากขึ้น
ส่วนนายอเล็กซานเดอร์ เราโบว์ด ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เสนอทางออกว่า การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยคงสภาพอากาศไว้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องลดการปล่อยมลพิษให้ได้มากที่สุด ซึ่งเยอรมนีมีเทคโนโลยีในด้านนี้ก็พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการน้ำในประเทศไทย หลังจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากที่สุดจนเกิดภัยแล้งและน้ำท่วม
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ยินดีร่วมมือกับเยอรมนี โดยทางสทนช. ได้ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมันในการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำยมในโครงการด้านน้ำ ภายใต้ความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อที่จะอาศัยเทคโนโลยีของเยอรมนีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หลังจากแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีกำหนดให้ลุ่มน้ำยมตอนบนเป็นพื้นที่ที่ต้องได้รับการบำรุงรักษาโดยเร็ว ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายทาง ทั้งนี้สทนช.จะพยายามเร่งรัดให้มีแผนงานในการพัฒนาลุ่มน้ำยมภายในปี 2564
....