ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2562

อากาศภาคใต้ดีขึ้นค่าAQI อยู่ระหว่าง 8-18 มคก./ลบ.ม.

          สถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซียเบาบางลงทำให้คุณภาพอากาศในจังหวัดภาคใต้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ นายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ระบุว่า แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจนกว่าลมที่พัดปกคลุมภาคใต้จะเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือนตุลาคมนี้ อากาศในพื้นที่ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก มีฝน ร้อยละ 40 ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เช่นเดียวกับภาคใต้ ฝั่งตะวันตก มีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ เช้านี้ คุณภาพอากาศดีมาก ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ค่า AQI อยู่ระหว่าง 8-18 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  

4-8 ต.ค.ความกดอากาศสูงจากจีนลงมา เย็นลง1-2องศา

          กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าวันนี้  ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนช่วงวันที่ 4 – 8 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เช้านี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าอยู่ในเกณฑ์ดี – ดีมาก ส่วนริมถนนดินแดง เขตดินแดง ริมถนนพระราม 3 เจริญกรุง เขตบางคอแหลม แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ คุณภาพอากาศปานกลาง

รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร แนะนำสมุนไพร รับมือ PM 2.5

          ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวถึง การรับมือฝุ่นละออง PM 2.5 ที่หากมีการสะสมอาจจะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงในโรคระบบทางเดินทางหายใจและหากสะสมระยะยาวอาจก่อให้เกิดมะเร็งปอดได้ ในทางพื้นบ้านพบว่ามีสมุนไพรหลายชนิดที่ช่วยในการดูแลปอด ฟอกปอด เช่น หญ้าดอกขาว เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการบรรจุให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2554 ในงานวิจัยพบว่า สารสกัดหญ้าดอกขาวความเข้มข้น ร้อยละ 10.09 มีฤทธิ์ลดการอักเสบในหนูที่ได้รับนิโคตินเป็นเวลายาวนานกว่า 6 เดือน พบว่าช่วยฟื้นฟูปอดให้กลับมาเป็นปกติได้ อีกทั้งยังมีการศึกษาว่าช่วยลดคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่คั่งค้างในปอด และลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งปอดได้ หญ้าดอกขาวเป็นสมุนไพรที่หาง่ายและปลอดภัย,ขมิ้นชัน มีความโดดเด่นเรื่องลดอักเสบ ผลการศึกษาพบว่าขมิ้นชันมีผลในการปกป้องระบบหัวใจหลอดเลือด-ปอด,รางจืด มีความโดดเด่นเรื่องการล้างพิษ ,มะขามป้อม หมอยาพื้นบ้านเชื่อว่ามะขามป้อมเป็นยาละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้ดีที่สุด ในด้านอายุรเวทใช้แก้ไอ แก้หอบ รักษาหลอดลมอักเสบ งานวิจัย พบว่า การกินมะขามป้อม ช่วยลดผลกระทบจากก๊าซพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แหล่งกำเนิดของPM 2.5 และฟ้าทลายโจร โดดเด่นเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ ในทางคลินิกใช้ป้องกันและรักษาหวัด ไซนัสอักเสบชนิดไม่รุนแรง หลอดลมอักเสบ คออักเสบ และทอนซิลอักเสบ และในวันที่ 3 ตุลาคม ตรงกับวันก่อตั้งครบรอบ 17 ปี กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โรงพยาบาลร่วมจัดนิทรรศการ โดยนำชุดความรู้สมุนไพรป้องกัน PM 2.5 ไปจัดแสดง

รองผู้ว่าฯกทม.กำชับเทศกิจตรวจเข้มผู้ค้าบนทางเท้า

          การจัดระเบียบทางเท้า นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนเสือป่า เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน ถนนพญาไท เขตราชเทวี และถนนพหลโยธิน เขตพญาไท โดยเฉพาะ บริเวณถนนเสือป่า เดิมเคยเป็นจุดผ่อนผันมาก่อนแต่ได้ยกเลิกไปแล้ว จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ค้าบางรายฝ่าฝืน ตั้งวางสิ่งของบนทางเท้า บางรายได้นำใส่รถเข็นมาขาย ได้กำชับหัวหน้าฝ่ายเทศกิจและเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานทำงานเข้มงวด หากพบจะตักเตือนและทำเรื่องเปลี่ยนไปอยู่เขตอื่น ยืนยันว่าเรื่องหาบเร่แผงลอยจะต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด

พณ.ดำเนินคดีหนักร้านค้าโครงการชิมช้อบใช้ ปรับราคาขึ้น

          นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  แจ้งเตือนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้ากับผู้ที่ได้รับสิทธิอย่างเด็ดขาด หากได้รับการร้องเรียนจะดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษหนักปรับ 1.4 แสนบาท จำคุก7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยหากรัฐขยายโครงการ แต่ขอให้ประเมินมาตรการเฟสแรกก่อนว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้างและขอให้ขยายเวลาหลังช่วงเทศกาลปีใหม่เพราะช่วงปีใหม่มีการจับจ่ายใช้สอยคึกคักอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกระตุ้น ควรทำในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และแต่ละครั้งควรมีกรอบเวลา 2 เดือน กำหนดวงเงินให้ชัดเจน รอบแรกคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 20,000-30,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้ร้อยละ 0.1-1.2