เมื่อเช้าวันอาทิตย์ 29 กันยายน จส.100ได้รับแจ้งเหตุนายจิตติ เหลี่ยมเพ็ชร์ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้มีดแทง น.ส.สมหวัง สุขขัง ภรรยาคนที่2เสียชีวิตภายในบ้านพัก ย่านซอยพหลโยธิน 52 และหลบหนีไป เมื่อคืนนี้ ตำรวจสน.บางเขนพร้อมด้วยตำรวจ สภ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก สามารถติดตามตัวนายจิตติ ได้ที่สถานีรถไฟหนองตมจังหวัดพิษณุโลก และคุมตัวมาสอบสวนต่อที่สน.บางเขน พื้นที่เกิดเหตุ นายจิตติ ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นก่อเหตุจริง เพราะบันดาลโทสะ ไม่ได้มีการวางแผนก่อน เมื่อถามว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ ผู้ต้องหาได้พยักหน้า แต่เมื่อถามว่าต้องการขอโทษผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผู้ต้องหาส่ายหน้า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายจิตติ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ไม่ประสงค์ให้มีการบันทึกภาพ และในวันพรุ่งนี้ ตำรวจจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ท้ายคำร้องจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก มีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี
พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเกิดจากความหึงหวง ผู้ต้องหาอ้างว่าผู้เสียชีวิตมีพฤติการณ์คุยกับผู้ชายคนอื่นมานานหลายปี จนวันเกิดเหตุผู้ต้องหากำลังจะไปขับรถแท็กซี่ แต่กลับมีปากเสียงกันจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะที่ลูกสาวของนายจิตติ ที่เกิดจากภรรยาคนแรกได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายจิตติ พร้อมบอกว่า ไม่ได้เข้าข้างพ่อ อยากให้พ่อเข้ามอบตัวอยู่แล้ว จากการพูดคุยกับพ่อก็ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้พ่อทำงานรับเหมาก่อสร้าง เป็นคนดี รักครอบครัว ต่อมาพ่อมาเจอ น.ส.สมหวัง ภรรยาคนที่ 2 อยู่ด้วยกันมาประมาณ20ปีแล้ว แต่ระยะหลัง3-4ปีหลังมานี้ มีปัญหาทางด้านการเงิน ต้องหาเงินด้วยการขับรถแท็กซี่ แต่ถูกน.ส.สมหวังและลูกกดดันหลายอย่าง จึงมาร้องไห้และเล่าให้ตนฟังหลายครั้ง ประกอบกับช่วงหลัง พ่อมักจะระแวงว่า น.ส.สมหวังจะมีผู้ชายคนอื่น จนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจึงอยากให้สังคมอย่าฟังความข้างเดียว ขอให้พ่อของตนได้อธิบายบ้าง