ที่ประชุมแก้ฝุ่น PM2.5 ใช้มาตรการดักจับรถปล่อยควันดำ-จัดโซนนิ่ง หากค่าPM2.5สูงกระทบสุขภาพ

หลังการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเร่งหามาตรการรับมือปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ที่ประชุมพิจารณา 3  มาตรการหลักก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เช่น มาตรการเร่งด่วนในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองปกคลุมในปริมาณสูง เช่น กรุงเทพมหานคร หากค่าฝุ่นละอองเกิน 50-75 ไมโครกรัม จะมีมาตรการดักจับรถที่ปล่อยควันดำ และเพิ่มการจัดโซนนิ่ง แต่หากค่าฝุ่นละอองเกิน 75 ถึง 100 ไมโครกรัม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สามารถออกคำสั่งได้ทันที เช่น สั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว  ขณะนี้ สถานีวัดค่าฝุ่นละออง 33 สถานี ในกรุงเทพมหานคร เช่น บางขุนเทียน คลองเตย ปทุมวัน บางเขน รวมถึง อ.เมือง และ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และบางพื้นที่ในจ.สระบุรี มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน แต่ช่วงบ่ายลดลงต่อเนื่อง จึงยืนยันค่าฝุ่นละอองที่สูงขึ้นยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตราย แต่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เกิดจากยานพาหนะที่ใช้น้ำดีเซลถึงร้อยละ 53 การเผากลางแจ้ง ร้อยละ 35 และเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ร้อยละ 3-7 รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยที่เกิดจากสภาพอากาศในช่วงที่มีความกดอากาศต่ำ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า วันพรุ่งนี้ หรืออย่างช้าไม่เกิน 2 วันนี้ จะมีฝนตกลงมาทำให้สถานการณ์ฝุ่นละอองคลี่คลาย พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถติดตามข้อมูลสภาพอากาศจากแอปพลิเคชั่นแอร์โฟร์ไทย ที่จะมีการอัปเดทเป็นรายชั่วโมง และทุก 24 ชั่วโมง ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า สภาพอากาศจะมีอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนหรือไม่

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข เตรียมแจกหน้ากากอนามัยในพื้นที่ที่มีปัญหาแล้ว ขอให้ประชาชนหมั่นสังเกตตัวเองหากมีไข้ มีน้ำมูกหรือน้ำตาไหล อย่าคิดว่าเป็นภูมิแพ้และรับประทานยาภูมิแพ้เอง แต่ให้ดูแลตัวเองให้ดี งดออกกำลังกายกลางแจ้ง ส่วนตัวเห็นว่าหากสถานการณ์รุนแรงอาจต้องสนับสนุนหรือรณรงค์ให้คนทำงานอยู่ที่บ้าน แบบสมาร์ท Workingโดยไม่ต้องเดินทางไปที่บริษัท และระบุว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถป้องกันได้