*มติครม.รับทราบผลตรวจสต๊อกยางพารา เร่งระบายทั้งในและตปท.*

12 พฤศจิกายน 2557, 15:44น.


ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้  พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ซึ่งได้มีการประเมินตรวจสอบคุณภาพยางในสต็อค ชนิด ยางแผ่นรมควันชั้น1-5(อัดก้อน) พบว่า เป็นยางคุณภาพดี ร้อยละ 33.95 / เป็นยางเสียรูป ร้อยละ 3.23 / และเป็นยางคุณภาพต่ำ ร้อยละ62.82 ส่วนยางชนิดแท่ง จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นยางคุณภาพดี ร้อยละ98.06 // เป็นยางเสียแต่ยอมรับได้ ร้อยละ 1.73 // และเป็นยางเสียที่ยอมรับไม่ได้ ร้อยละ0.20 ซึ่งหลังจากทราบผลการตรวจสอบแล้ว ที่ประชุมๆด้มีมติเห็นชอบให้ระบายสต็อคยางในช่องทางที่ดีที่สุด คือ สามารถขายยางให้กับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์และความรวดเร็วในการระบายยางเป็นหลัก



นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังเห็นชอบหลักการประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากร ลดและเพิ่มอัตราอากรศุลกากร มีสาระสำคัญ คือ ลดอัตราอากรในโควต้าการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทกากถั่วเหลืองจากร้อยละ10 ให้ลงลดเหลือเพียงร้อยละ2 แต่มีข้อผูกมัดให้บริษัทนำเข้าจะต้องรับซื้อกากถั่วเหลืองในประเทศด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.58



ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบให้ประเทศไทยลงนาม เข้าร่วมเป็นภาคีสนธิสัญญาว่าด้วยการค้าอาวุธโดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวแทนรัฐบาลไปลงนามดังกล่าว โดยสนธิสัญญานี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน หรือในวันที่ 23 ธันวาคม 2557 ขณะเดียวกัน ยังเห็นชอบ ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 6 ตามที่ กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ  เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำโขงใน 3 เสาหลัก คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาไปพร้อมกัน รวมถึง ความมั่นคงมนุษย์และการพัฒนาสิ่งแวดล้อม  ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขอมติที่ประชุมให้อนุมัติให้ปี2558 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติตามที่ร้องขอ แต่ให้กระทรวงกลับไปจัดทำรายละเอียดการดำเนินการเพิ่มเติม



นอกจากนี้ ยังมีการอนุมัติการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ในการก่อสร้างถนนจากเมืองหงสา-บ้านเชียงแมน แขวงหลวงพระบาง ในวงเงิน1,977ล้านบาท  สาเหตุที่จะต้องมีการช่วยเหลือเงินการก่อสร้าง เนื่องจากเป็นการส่งเสริมยุทธศาสตร์การเป็นเมืองคู่แฝด ระหว่าง จังหวัดน่าน กับ หลวงพระบาง อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือครั้งนี้มีผลผูกพันธ์ว่าการก่อสร้างจะต้องใช้สินค้าและบริการจากประเทศไทยไม่นัอยกว่าร้อยละ50ของมูลค่าสัญญา

ข่าวทั้งหมด

X