การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่งเสริมให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เองเพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง

การส่งเสริมให้ประชาชนสามารถผลิตไฟฟ้าได้เองของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) นายต้องพงศ์ ศรีบุญ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจดิจิตัลและนวัตกรรม กองกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจใหม่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เปิดเผยว่า PEA มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังจะเข้ามาทำให้ประชาชนสามารถผลิตและซื้อขายไฟฟ้าได้เองในอนาคต PEA จึงจำเป็นต้องปรับบทบาทองค์กรให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงและสอดรับกับการเพิ่มช่องทางการสร้างโอกาสทางธุรกิจขององค์กรให้มากขึ้น โดยได้จัดทำแอปพลิเคชั่น PEA SOLAR HERO เพื่อรับสมัครการติดตั้ง Solar rooftop หรืออุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จากประชาชน เพื่อให้ประชาชนที่ประสงค์ผลิตไฟฟ้าใช้เองมีอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย โดยเริ่มรับสมัครตั้งแต่เดือนพฤษภาคมใน 4 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดระยอง, จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมแล้วกว่า 3,000 ราย เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยส่วนมากเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการใช้ไฟฟ้าประมาณ 2 กิโลวัตต์ วันที่ 17 ตุลาคมนี้จะเปิดรับสมัครการติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าภายในปีหน้ากำลังผลิตไฟฟ้าที่ผลิตได้จากผู้เข้าร่วมโครงการจะมีรวมกันกว่า 26,000 กิโลวัตต์ ทั้งนี้ PEA จะคิดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้านี้เริ่มต้นที่ 40,000 บาท ต่อ 1 กิโลวัตต์ ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 4 หน่วยต่อวัน ประเมินว่าหากผู้ติดตั้งใช้ไฟเองโดยไม่ขายคืนให้กับ PEA ก็จะใช้เวลาประมาณ 5-6 ปีในการคืนทุน แต่หากประสงค์ขาย PEA จะรับซื้อในราคาหน่วยละ 1.68 บาท

นายต้องพงศ์ ยังบอกว่า ภายใน 5 ปีนี้ PEA มีแนวคิดจะทำระบบการซื้อ-ขายไฟฟ้าแบบดิจิตอลจากประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่นให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ ส่วนโครงการรับสมัครการติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์นี้แม้จะทำให้ PEA บริหารจัดการไฟฟ้าได้ยากขึ้น เนื่องจากระบบผลิตไฟฟ้ามีมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการดูแลความปลอดภัย แต่ก็มองว่าโครงการนี้ส่งผลดีมากกว่าเสีย เนื่องจากการที่ประชาชนผลิตไฟฟ้าได้เองย่อมช่วยลดมลพิษในอากาศลง ทั้งประชาชนสามารถซื้อ-ขายไฟฟ้าในราคาที่ถูกได้มากขึ้น พร้อมมั่นใจว่าโครงการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ PEA

...