ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันพุธที่ 25 กันยายน 2562
+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯรายงานเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทางตะวันออกของปากีสถานวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 แมกนิจูดเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 10 กม.และห่าง 22 กม.ทางเหนือของเมืองเฮลุมในรัฐแคชเมียร์ของปากีสถาน ในตอนแรกนายกรัฐมนตรีของรัฐแคชเมียร์ปากีสถาน กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 100 คนนำส่งโรงพยาบาลแล้วในเมืองมีร์ปุระ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตและความช่วยเหลือกำลังดำเนินการอยู่ แต่ก็ขัดกับรายงานของนายซาอีดูร์ เรห์มาน กุเรชี เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจัดการพิบัติภัยของรัฐแคชเมียร์บอกว่า มีผู้บาดเจ็บกว่า 70 คนและเสียชีวิต 3 ศพ สาธารณูปโภคในรัฐแคชเมียร์ปากีสถานได้รับความเสียหาย ทั้งถนน เสาโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสาไฟฟ้า รวมทั้งยังมีอาคารพังถล่ม ต่อมานายซาร์ดาร์ กุลฟาเรซ รองจเรตำรวจของเมืองมีร์ปุระรัฐแคชเมียร์ปากีสถานกล่าวว่า ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ ขณะนี้ เพิ่มเป็น 22 ศพ
+++ซาอุดิอาระเบีย เชื่อว่า อิหร่านเป็นคนลงมือโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน และจะพิจารณาใช้มาตรการทหารตอบโต้เมื่อการสืบสวนที่คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ เสร็จสิ้นแล้ว กบฏฮูตีในเยเมนที่อิหร่านให้การสนับสนุน ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งในซาอุดิอาระเบีย แต่ทั้งซาอุดิอาระเบียและสหรัฐฯ ต่างกล่าวโทษว่าเป็นฝีมืออิหร่าน ขณะที่อิหร่านฏิเสธความเกี่ยวข้อง
+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังใช้เวทียูเอ็นประณามอิหร่านและประกาศว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตร พร้อมเรียกร้องประเทศอื่นๆให้เข้าร่วมกับสหรัฐฯในความพยายามกดดัน
+++ส่วนเรื่องนโยบายผู้อพยพ นายทรัมป์ กล่าวว่า เมื่อชายแดนของประเทศไม่มีความมั่นคง ก็สะท้อนว่ารัฐไม่อาจจะคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมิตรให้กับพลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศได้ และอนาคตของประเทศไม่ใช่เป็นของนักโลกาภิวัตน์ แต่เป็นของพลเมืองที่มีความรักชาติ
+++หลังจากคณะผู้พิพากษาในศาลฎีกาของสหราชอาณาจักรทั้ง 11 คน มีคำชี้ขาดอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าคำสั่งของรัฐบาลที่ให้ขยายเวลาปิดประชุมรัฐสภา 5 สัปดาห์ ในช่วงก่อนการถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)หรือเบร็กซิต ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระทบต่อหลักการพื้นฐานเรื่องระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง จึงมีผลเป็นโมฆะ พร้อมทั้งเสนอทางออกให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา พิจารณาร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายจอห์น เบอร์โคว์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สหราชอาณาจักร ระบุว่า รัฐสภาจะเริ่มการประชุมตามปกติในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 11.30 น.
+++ท่าทีของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ที่อยู่ระหว่างการร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายจอห์นสัน เปิดเผยต่อที่ประชุมผู้นำธุรกิจแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กว่าเขาเคารพคำชี้ขาดของศาลฎีกาแต่รู้สึกผิดหวังที่ศาลมีคำชี้ขาดเช่นนี้
+++นายจอห์นสัน กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันเรื่องเบร็กซิตไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน พรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ นายจอห์นสัน ลาออก เนื่องจากคำชี้ขาดของศาลฎีกา ชี้ชัดเจนว่า นายจอห์นสัน ต้องการจะขัดขวางรัฐสภาไม่ให้ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงก่อนข้อตกลงเบร็กซิต ปลายเดือนตุลาคมนี้
+++ราคาน้ำมันลงแรง หลังเห็นสัญญาณความคืบหน้าในการฟื้นฟูกำลังผลิตของซาอุดิอาระเบีย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มีรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียสามารถฟื้นฟูกำลังผลิตได้แล้วกว่าร้อยละ 75 และคาดหมายว่าจะกู้คืนกำลังการผลิตได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ปัจจัยนี้คลายความกังวลทำให้ราคาน้ำมันขยับลง
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลงจากสุนทรพจน์แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และความเคลื่อนไหวสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสที่เตรียมเดินหน้าไต่สวนถอดถอนนายทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง
+++ดาวโจนส์ ลดลง 142.22 จุด ปิดที่ 26,807.77 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 25.18 จุด ปิดที่ 2,966.60 จุด แนสแดค ลดลง 118.84 จุด ปิดที่ 7,993.63 จุด
+++ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(24ก.ย.) ปิดสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังนายทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์จีนและใช้แนวทางแข็งกร้าวกับอิหร่านระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,540.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++หลังองค์การนิรโทษกรรมสากลของอังกฤษ เปิดเผยรายงานว่าตำรวจฮ่องกงทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมพร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงสอบสวนและคุ้มครองการชุมนุมอย่างสันติของประชาชนในฮ่องกงให้มากขึ้น นางแคร์รี่ แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เปิดเผยว่า ตำรวจฮ่องกงถูกสังคมกดดันอย่างหนักกรณีการทำร้ายนักเคลื่อนไหวและใช้ความรุนแรงเกินเหตุระหว่างการสลายการประท้วงตลอด 3 เดือนที่มีการชุมนุม พร้อมทั้งยอมรับว่ายังมีภารกิจอีกมากที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อสร้างความปรองดองในสังคม
+++ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ชื่นชมการปฏิบัติงานของตำรวจว่าที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ามีคนเสียชีวิตจากการปฏิบัติงานของตำรวจ พร้อมแสดงความหวังว่า การเสวนากับตัวแทนประชาชน 150 คน ในวันพฤหัสบดีนี้จะนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาวิกฤติทางการเมืองในฮ่องกง แม้ว่าเธอจะสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจตามหลักนิติรัฐ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสนับสนุนให้ตำรวจทำผิดกฎระเบียบหรือใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ยังไม่ได้พูดชัดเจนว่ารัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจกรณีใช้ความรุนแรงในการสลายการประท้วงหรือไม่ +++นายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุว่า กองทุนช่วยเหลือทางการเงินของบริษัทโบอิ้ง จะเริ่มจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายรวม 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้ครอบครัวผู้โดยสาร 346 ศพ ที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ตก 2 ครั้ง คืออุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 302 ตกในเอธิโอเปียเมื่อวันที่ 10 มีนาคมปีนี้ มีคนเสียชีวิต 157 ศพ และเครื่องบินโบอิ้ง เที่ยวบิน 610 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ตกในอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมปีที่แล้ว มีคนเสียชีวิต 189 ศพ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
+++โบอิ้ง ระบุในแถลงการณ์ว่าจำนวนเงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนตามคำมั่นของโบอิ้งที่จะจัดสรรเงินทุนจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้โดยสารที่เสียชีวิต โบอิ้งจะนำเงินทุนอีกครึ่งหนึ่งไปใช้สนับสนุนโครงการด้านการศึกษาและการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ