หลังนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางมาที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้า คดีที่องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. ขายสินเชื่อที่อยู่อาศัย ของสถาบันการเงินกว่า 56แห่ง ที่เกิดขึ้นเมื่อ15ปีที่แล้ว กำลังจะหมดอายุความในสิ้นเดือนนี้
ในช่วงเย็นวันนี้ ป.ป.ช. ชี้แจงผ่านเอกสารถึงความคืบหน้คดีว่า คณะกรรมการ ป.ป.ชได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการในการตรวจสอบกรณีดังกล่าว แล้วจำนวน 6 เรื่อง ซึ่งผลการไต่สวนปรากฏว่า การกล่าวหาคณะกรรมการ และผู้บริหาร ปรส. ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีมูล จึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป จำนวน 3 เรื่อง และไม่ยกคำร้องขึ้นมากพิจารณาอีก และมี 1 เรื่องที่ศาลได้รับฟ้องแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
ส่วนอีก 2 เรื่อง เป็นการกล่าวหา นายมนตรี เจนวิทย์การ ในฐานะอดีตเลขาธิการ ปรส. ว่ามีดำเนินการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุน แกมม่าแคปปิตอล และ บริษัท เงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด(มหาชน) โดยมิชอบเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายและมีมูลความผิดทางวินัย และทางอาญา จึงได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 22พฤษภาคม 2557 ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหารายอื่นไม่มีมูลความผิดจึงยกคำร้อง และจนถึงขณะนี้ ป.ป.ช.ไม่มีคดีการกล่าวหาคณะกรรมการหรือผู้บริหาร ปรส. ค้างการพิจารณาแต่อย่างใด