ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันที่ 18 กันยายน 2562

18 กันยายน 2562, 05:35น.



ซาอุดิอารามโก บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย แจ้งโรงกลั่นน้ำมันอย่างน้อย 6 แห่งในเอเชียว่าจะส่งน้ำมันดิบให้เต็มจำนวนได้ในเดือนหน้า หลังจากที่โรงกลั่นน้ำมันสองแห่งถูกโจมตีเมื่อวันเสาร์ ซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้หมดเพราะมีน้ำมันคงคลังจำนวนมาก โรงกลั่นของรัฐสามแห่งในอินเดีย จะได้น้ำมันเต็มจำนวนในเดือนตุลาคม โรงกลั่นแห่งหนึ่งในจีนและอีกแห่งในไต้หวัน เปิดเผยว่า ซาอุดิอารามโก ยืนยันว่า ปริมาณน้ำมันที่จะส่งให้ในเดือนนี้และเดือนหน้าจะเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือล่าช้า ขณะที่แหล่งข่าวบรรษัทปิโตรเลียมบังคลาเทศ เปิดเผยว่า ได้หารือกับซาอุดิอารามโกเมื่อวานนี้เรื่องน้ำมันที่จะส่งมอบงวดหน้าในเดือนตุลาคมและได้รับการยืนยันว่าจะเป็นไปตามเดิม เช่นเดียวกับ โรงกลั่นในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดียและไทยเป็นลูกค้าหลักที่ซื้อน้ำมันเบาและน้ำมันเบาพิเศษของซาอุดิอาระเบีย แม้โรงกลั่นในเอเชียสามารถหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นอย่างสหรัฐฯ แอฟริกาตะวันตกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในกรณีที่น้ำมันจากซาอุดิอาระเบีย มีปัญหา แต่ราคาแพงขึ้นแน่นอน ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 3.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 4.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เจ้าชายอับดุลลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า กำลังการผลิตน้ำมันของประเทศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติช่วงสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากสามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตที่โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ที่ถูกโจมตีได้แล้วร้อยละ 50 และได้นำคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้เพื่อรักษาระดับให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 33.98 จุด ปิดที่ 27,110.80 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.74 จุด ปิดที่ 3,005.70 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 32.47 จุด ปิดที่ 8,186.02 จุด ตลาดหุ้นผันผวน หลังเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันทำให้กำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นและสร้างความกังวลในเรื่องความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเบาใจหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บอกว่าเขาไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน หลังจากที่กล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี ขณะที่ นักลงทุนติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในวันนี้ ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบในอัตราร้อยละ 0.25 ด้านราคาทองคำ ปิดบวก 2 วันติดต่อกัน ทองคำสัญญาโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.90 ปิดที่ 1,513.40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์



สถานการณ์ร้านค้าปลีกหลายแห่งในฮ่องกง อาจจะต้องปิดกิจการหลังการประท้วงยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อเดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 40 ส่งผลกระทบต่อรายได้ของร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ที่อาจจะต้องปิดกิจการช่วงปลายเดือนนี้ หลังยอดขายตกอย่างหนักและอาจจะทำให้ต้องปลดพนักงานหลายพันคน มีการตั้งข้อสังเกตว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจของฮ่องกงในปัจจุบัน ร้านค้าปลีกไม่สามารถประคองกิจการให้อยู่รอดต่อไปได้  คาดว่าเครือข่ายร้านค้าปลีกส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เลิกจ้างพนักงานประจำ แม้ว่าแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกอาจจะไม่สดใสมากนักในอนาคต รายงานระบุว่า ร้านค้าปลีก ร้อยละ 20-30 ของร้านค้าปลีกทั้งหมด ใช้วิธีลดค่าใช้จ่ายด้วยการอนุญาตให้พนักงานที่ทำงานเต็มเวลาสามารถลางานได้แต่ไม่ได้รับค่าจ้างและเลิกจ้างลูกจ้างที่ทำงานชั่วคราว ตามปกติวันชาติจีน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จะเป็นช่วงหยุดสุดสัปดาห์ติดต่อกันประมาณ 5 วัน  เมื่อปีที่แล้ว ร้านค้าปลีกในฮ่องกงมียอดขายสูงมาก เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน 1.2 ล้านคน เข้ามาเที่ยวในฮ่องกงช่วงเฉลิมฉลองวันชาติ แต่ปีนี้เมื่อมีสถานการณ์การประท้วง ยอดนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลกระทบต่อร้านค้าปลีกในฮ่องกง



เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเหตุขบวนรถไฟโดยสารของบริษัทรถไฟขนส่งมวลชน เอ็มทีอาร์ คอร์ปอเรชั่น สายตะวันออก เกิดเหตุตกราง ขณะแล่นออกจากสถานีในย่านฮุงฮอม ไปยังสถานีมงก๊กตะวันออก บนฝั่งเกาลูน ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเมื่อเช้าวันอังคาร เจ้าหน้าที่การขนส่งสาธารณะฮ่องกง เปิดเผยว่า มีผู้โดยสารอยู่บนขบวนรถประมาณ 500 คน ตู้โบกี้ไถลหลุดออกจากราง 3 ตู้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน  นายเร็กซ์ โอเยือง ปัค-เคียน ประธานบริษัท เอ็มทีอาร์ คอร์ป เปิดเผยว่า เป็นอุบัติเหตุรถไฟตกรางครั้งแรกในรอบหลายปี ยังไม่ทราบสาเหตุ บริษัทจะร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐบาลในการตรวจสอบ เบื้องต้นไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือการประท้วง นายปัค-เคียน กล่าวขอโทษผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและผู้โดยสารอื่นๆ ที่ต้องเสียเวลาจากเหตุการณ์ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกง เดนิส โฮ ศิลปินและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิประชาธิปไตย ซึ่งเพลงของเธอถูกแบนในจีนแผ่นดินใหญ่ เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของสภาคองเกรสในกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนของกฎหมายสหรัฐฯที่มีเป้าหมายปกป้องสิทธิพลเมืองของชาวฮ่องกง โฮ บอกว่า เป็นการร้องขอสิทธิมนุษยชนที่เป็นสากลเป็นการวิงวอนเพื่อประชาธิปไตยเป็นคำวิงวอนเพื่อเสรีภาพของการเลือก ขณะที่ นายโจชัว หว่อง วัย 22 ปี นักเคลื่อนไหว ระบุว่า ฮ่องกงอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การเดิมพันไม่เคยสูงเช่นนี้มาก่อน พร้อมทั้งเตือนว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน อาจใช้มาตรการหนักหน่วงขึ้นก่อนถึงวาระครบรอบ 70 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนหน้า



หนังสือพิมพ์จุงอัง สัมภาษณ์ แหล่งข่าวทางการทูต ที่ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็นเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ หรือสหรัฐฯ ว่าเมื่อเดือนสิงหาคม นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีทรัมป์  2 ฉบับ สาระสำคัญของจดหมายฉบับแรกคือการเชิญผู้นำสหรัฐฯเยือนกรุงเปียงยาง อย่างเป็นทางการ ซึ่งหากนายทรัมป์ตอบรับจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯในตำแหน่งคนแรกที่เยือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ สาระสำคัญของจดหมายฉบับที่สองคือการส่งสัญญาณความพร้อมของนายคิม ในการพบหารืออย่างเป็นทางการครั้งใหม่กับผู้นำสหรัฐฯ ทั้งคู่ประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ตามด้วยฮานอยซัมมิต ที่เมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อเดือนก.พ. ปีนี้ และตามด้วยการพบกันอย่างไม่เป็นทางการที่เขตปลอดทหาร ( ดีเอ็มซี ) ฝั่งเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.และยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสหรัฐฯในตำแหน่งคนแรกที่เดินข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารจากฝั่งใต้ไปยังฝั่งเหนือด้วย นายทรัมป์ พูดถึงเรื่องนี้ว่าส่วนตัวแล้วยังไม่คิดว่าสหรัฐฯมีความพร้อมสำหรับเรื่องนี้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการพร้อมทั้งย้ำว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเขากับนายคิมอยู่ในระดับดีมากและเชื่อว่าอีกฝ่ายเฝ้ารอเวลาที่เหมาะสมในการเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของเขาเช่นกัน




 

ข่าวทั้งหมด

X