*สรุปข่าว18.00น.*

16 เมษายน 2557, 17:42น.


+++พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวทางโซเชียลมีเดียว่ากองทัพ จะทำรัฐประหารหลังเทศกาลสงกรานต์ในวันที่19เม.ยเวลา 04.00น.ว่าขอปฏิเสธว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงและเป็นเพียงข่าวลือตามโซเชียลมีเดียเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น ขณะนี้ กองทัพยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากงานที่ปฏิบัติอยู่คือการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ การดูแลพื้นที่ชายแดนเพื่อตรวจจับผู้ที่กระทำผิดลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนแล การดูแลรอบบริเวณพื้นที่ชุมนุมต่างๆและสถานที่สำคัญตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสารด้วย



 +++พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “เหรียญทอง แน่นหนา” ระบุว่า ปัญหาผู้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้มีการกระทำอย่างเปิดเผยและท้าทายต่อสาธารณชนในขณะที่ส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลไม่กล้าบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดอย่างจริงจังจนทำให้ปัญหาถูกปล่อยปละละเลย กองทัพ จำเป็นต้องเข้ามามีบทบาท โดยขอให้กองทัพจัดกำลังเข้าร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนรวมเป็นพลังประชาชน ปฏิบัติการดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว ด้านพ.อ.วินธัย กล่าวว่า ต้องรอนโยบายจากผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่า กองทัพให้ความใส่ใจและเฝ้าระวังติดตามผู้ที่กระทำหมิ่นสถาบันอย่างเข้มงวด



 +++พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางพร้อมคณะ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หน.ศูนย์ประชาสัมพันธ์และรองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าพบกับนายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส รวมทั้งคณะกรรมการอิสลาม ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ที่ถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนนโยบาย พล.ท.วลิต แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ยังคงสานต่อนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 คนเก่า ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการทำงานที่เน้นให้การเมืองนำการทหาร สำหรับการทำงานในภาคปฏิบัติของกองกำลังผสม 3 ฝ่ายยังคงยึดหลักแนวทางพระราชดำริ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาเช่นเดิม และที่ผ่านมาสามารถคลี่คลายสถานการณ์ความรุนแรงได้เป็นอย่างมาก



 +++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร  คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย.น่าจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาลและ กกต.เพื่อกำหนดวันออกพระราชกฤษฎีการเลือกตั้งใหม่โดยรัฐบาลน่าจะเลือกสูตรที่เร็วที่สุดคือ 90 วัน ดังนั้น วันเลือกตั้ง น่าจะเป็นอาทิตย์ที่ 20  หรือ 27 ก.ค.          นายสมชัย ระบุว่า  การเลือกตั้งครั้งใหม่ ไม่น่าจะมีเหตุโมฆะ เนื่องจาก กกต.ได้กำหนดวิธีการรับสมัครด้วยวิธีการที่หลากหลาย          ทำให้น่าจะมีผู้สมัครครบทุกเขต แต่ การได้ ส.ส.ครบร้อยละ 95 ภายใน 30  วันหลังจากการเลือกตั้ง เนื่องจาก ต้องเลือกตั้งครบทุกหน่วยจึงจะสามารถประกาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายมาก สภาจะเปิดได้ในเดือนก.ย.และมีรัฐบาลใหม่ได้ในเดือนต.ค.



+++พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึง การนัดประชุมปลัดกระทรวงของศอ.รส.ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทั่วไป รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมยืนยันว่า จะร่วมประชุมครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน และคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการได้รับข้อมูลสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย หนังสือเชิญของศอ.รส.ก็เปรียบเสมือนเป็นคำสั่ง คิดว่าไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปเข้าร่วมการประชุม อีกทั้งบางหน่วยงานที่ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงก็จะได้รับฟังและทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ในหมู่ข้าราชการด้วย



+++นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ที่ถนนอักษะ ในวันที่18เม.ย.นี้ ว่า จะส่ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และเลขาธิการนปช.ประชันกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.โดยมีประเทศเป็นเดิมพัน เป็นการนัดชุมนุมปิดประตูรัฐประหาร และปิดประตูการอ้างตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของนายสุเทพ



+++นายณัฐวุฒิ  กล่าวถึง กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ว่าขอท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ ดีเบตผ่านทางสถานีโทรทัศน์กับประชาชนคนไหนก็ได้ที่ต้องการจะใช้สิทธิเลือกตั้ง มาพูดคุยกันว่า ทำไมประชาชนคนดังกล่าวจึงต้องการเลือกตั้ง



+++ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า กปปส.จะเคลื่อนไหวเดินหน้ารณรงค์เชิญชวนพนักงานรัฐวิสาหกิจร่วมต่อสู้โดยจะเคลื่อนไหวตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เป็นต้นไป จนกว่าจะถึงวันที่เป็นเงื่อนไขชุมนุมใหญ่ คือ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทั้งรัฐวิสาหกิจด้านการเงินการขนส่ง สาธารณูปโภค และการสื่อสาร



 +++หุ้นไทย ปิดบวก 12.68 จุด ที่ 1,401.84 จุด บวกขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ปัจจัยทางความเสี่ยงเกี่ยวกับคดีทางการเมืองในประเทศ ยังมีอยู่และต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นไทยขยับได้ในกรอบค่อนข้างจำกัด



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ของญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 420.87 จุด ปิดที่ 14,417.68 จุด  ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่จีนเผยตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัวมากกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ เพิ่มขึ้น 24.75 จุด ปิดที่ 22,696.01 จุด



+++เศรษฐกิจจีน ขยายตัวร้อยละ 7.4 ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แม้จะดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่หากจะเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่า เศรษฐกิจชะลอตัวลง เนื่องจาก ไตรมาสแรกของปีก่อน เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 7.7 เมื่อปีที่แล้ว จีนประกาศเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 7.5 เน้นการเสริมสร้างความมั่นคง



 +++ศูนย์ประสานงานการค้นหาหรือเจเอซีซี ของออสเตรเลีย ที่เป็นหน่วยงานหลักในการค้นหาสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่สูญหาย กล่าวว่า โดรน บลูฟิน-21 ยานสำรวจใต้น้ำ ที่ถูกส่งไปสำรวจใต้ท้องทะเลเป็นครั้งที่ 2 เกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค และถูกสั่งให้ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำโดยอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลคลื่นเสียงใต้ทะเลยังไม่พบข้อมูลสำคัญๆ หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ ประเมินว่า อาจต้องใช้เวลา 6 สัปดาห์ โดรนจึงจะสามารถสำรวจใต้ท้องทะเลนอกชายฝั่งทางภาคตะวันตกของออสเตรเลียได้ครอบคลุมทั้งหมด



 

ข่าวทั้งหมด

X