ผลกระทบจากการที่กลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ใช้โดรนโจมตีคลังน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทซาอุดิอารามโก รัฐวิสาหกิจของซาอุดิอาระเบีย ทั้งขู่ว่าจะโจมตีต่อไปจนกว่าซาอุดิอาระเบียจะยุติการทิ้งระเบิดโจมตีเยเมน ซึ่งแม้ว่ากำลังการผลิตจะลดลง แต่การส่งออกมีปริมาณเท่าเดิม เนื่องจากซาอุดิอาระเบีย จะปล่อยน้ำมันสำรองจากโรงกลั่นแห่งอื่นออกมา นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ใช้คำสั่งผู้บริหารปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ หรือ เอสพีอาร์ทดแทนส่วนที่หายไป
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า หากซาอุดิอาระเบียสามารถฟื้นการผลิตน้ำมันอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันก็จะปรับตัวขึ้นเพียง 3-4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่หากการผลิตน้ำมันลดลง 4 ล้านบาร์เรลต่อวันนานกว่า 3 เดือน ก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นแตะ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม จากข่าวการโจมตีทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 สูงสุดนับตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซียปี 2534 โดยตราสารน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 71.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่จุดสูงสุดในระหว่างการซื้อขายนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2534 ส่วนสัญญาที่ส่งมอบเดือนหน้าอยู่ที่ 66.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากนั้นราคาน้ำมันเบรนท์ ลอนดอน ปิดตลาดงวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนตราสารน้ำมันยูเอส เวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต ปรับตัวขึ้นถึงร้อยละ 15.5 เป็น 63.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเป็นการปรับตัวขึ้นในระหว่างวันมากสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2541 ส่วนสัญญาที่จะส่งมอบเดือนหน้าอยู่ที่ 59.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากนั้นในระดับราคาปิดตลาด ซึ่งเป็นงวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 8.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
บริษัทซาอุดิอารามโก แจ้งว่า การโจมตีไม่มีผลกระทบต่อปริมาณการส่งออก เพราะมีน้ำมันสำรองเพียงพอสำหรับ 30-40 วัน และมีการฟื้นฟูกำลังการผลิตประมาณหนึ่งในสาม หรือประมาณ 2 ล้านบาร์เรลภายในวันจันทร์
เมื่อวานนี้ กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนประกาศว่า จะโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท ซาอุดิอารามโกต่อไป และเตือนให้ชาวต่างชาติออกไปจากบริเวณโรงกลั่นน้ำมัน โฆษกทหารของกลุ่มฮูตี ทวีตข้อความระบุว่า การโจมตีโรงกลั่นของอารามโกทางภาคตะวันออกของซาอุดิอาระเบีย ใช้โดรนที่ใช้เครื่องยนต์เครื่องบินธรรมดา และต้องระบุข้อเรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบียหยุดรุกรานและปิดล้อมเยเมน
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีคลังน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ที่เป็นการโจมตีต่อเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร และเป็นการทำลายปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ-สังคม ส่งผลกระทบต่อสมดุลอุปสงค์และอุปทานพลังงาน ก่อให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพในตลาดน้ำมันโลก นอกจากนี้ ยังเรียกร้องว่าอย่าด่วนสรุปว่าประเทศใดเป็นผู้ก่อเหตุโจมตี ไม่สมควรที่จะใช้เหตุการณ์นี้สร้างความเกลียดชังต่ออิหร่านตามนโยบายสหรัฐฯ
กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียออกแถลงการณ์ว่าคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพของกลุ่มตาลีบันจากกาตาร์ เดินทางมากรุงมอสโก เพื่อพบหารือกับ นายซาเมียร์ คาบูลอฟ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เรื่องกิจการอัฟกานิสถาน แต่ยังไม่มีการยืนยันว่ารัสเซียจะจัดการพบหารือกับกลุ่มตาลีบันอย่างเป็นทางการครั้งใหม่หรือไม่ หลังเคยพบหารือกันมาแล้วเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม และมีขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการพบหารือกับสมาชิกระดับแกนนำของกลุ่มตาลีบันและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 8 กันยายน เนื่องจากกลุ่มตาลีบันก่อเหตุระเบิดที่กรุงคาบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทหารอเมริกัน
และจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แห่งจีนยอมรับว่าเป็นการยากมากที่เศรษฐกิจจีนจะโตในอัตราร้อยละ 6 หรือมากกว่า เนื่องจากฐานเดิมสูงมากและสถานการณ์ระหว่างประเทศมีความซับซ้อน ขณะที่การผลิตในภาคอุตสาหกรรมโตในอัตราต่ำสุดในรอบ 17 ปีครึ่งในเดือนสิงหาคม
นักวิเคราะห์คาดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนน่าจะลดลงอีกในไตรมาสนี้จากที่เติบโตต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปีที่ร้อยละ 6.2 ในเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยภาคผู้บริโภคและโรงงานจีนชะลอตัวลงอีกในเดือนสิงหาคม การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเติบโตในอัตราต่ำสุดในรอบ 17 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าปัญหาการค้าและความต้องการสินค้าต่าง ๆ ในประเทศที่ลดลงทำให้เศรษฐกิจจีนซบเซามากขึ้น
...