นักวิเคราะห์ มองจีนต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ-ทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ

หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจากเดือนกรกฎาคมที่ร้อยละ 4.8 ต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่ ยอดขายปลีกเดือนสิงหาคม ลดลงร้อยละ 7.5 และร้อยละ 7.6 เมื่อเดือนกรกฎาคม ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายเคน เชือง คินไต หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศประจำธนาคารมิซูโฮในฮ่องกง นายติง ลู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทการลงทุนโนมูระของญี่ปุ่นและนายมาร์ติน ลินจ์ รัสมุสเซน นักเศรษฐศาสตร์ประจำประเทศจีนของบริษัทแคปปิตอล อีโคโนมิกส์ของอังกฤษ กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของจีน ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีน ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นประเด็นที่ทำให้ประเทศจีน ต้องเร่งหาทางปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ พร้อมทั้งดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ขับเคลื่อนไปได้ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

ด้านนายทอมมี วู นักเศรษฐศาสตร์จากสำนักวิจัยอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ คาดว่า ธนาคารกลางของประเทศจีนอาจจะดำเนินมาตรการต่างๆ รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ คาดว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้ จะเติบโตร้อยละ 6.1 และปีหน้า เติบโตร้อยละ 5.7  

เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง หลังจากเมื่อปีที่แล้วเกิดข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลจีน แถลงว่า ประเทศจีนจะยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 18 รายการ รวมทั้งถั่วเหลืองและเนื้อสุกร ขณะที่ สหรัฐฯ เลื่อนเวลาขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่จากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 30 ไปเป็นวันที่ 15 ตุลาคม เป็นมาตรการล่าสุดที่ทั้งสองประเทศเริ่มดำเนินการเพื่อช่วยลดความตึงเครียดก่อนที่เดือนหน้าทั้งสองฝ่ายจะมีการเจรจากัน

ทีมต่างประเทศ

แฟ้มภาพ