จากเหตุกลุ่มกบฏฮูตีส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนจำนวน 10 ลำ โจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดิ อารามโค เมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของทางการ สื่อของทางการซาอุดิอาระเบียรายงานว่า มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดิอาระเบีย ทรงโทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมประสานความร่วมมือกับซาอุดิอาระเบีย เพื่อปกป้องดูแลความปลอดภัย เนื่องจากการโจมตีล่าสุดนี้ ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม มกุฎราชกุมารทรงมีรับสั่งตอบว่า ซาอุดิอาระเบียมีความสามารถในการเผชิญหน้าและจัดการกับเหตุก่อการร้ายรุนแรงได้
ด้านเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่าการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันทำให้ต้องลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงมาครึ่งหนึ่ง จากกำลังการผลิตปกติที่วันละ 5 ล้าน 7 แสนบาร์เรลต่อวัน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก และยังเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
***ก่อนหน้านี้นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความกล่าวหารัฐบาลอิหร่านว่าเป็นผู้ที่ส่งโดรนมาโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน เพราะมีหลักฐานที่ชี้ว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีในซาอุดีอาระเบียมาแล้วเกือบ 100 ครั้ง แต่ไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าโดรนเหล่านี้บินมาจากเยเมน
***กลุ่มฮูตีซึ่งยึดครองกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 ประกาศว่าเป็นผู้ปฏิบัติการโจมตี พร้อมยืนยันว่าจะโจมตีสินทรัพย์ด้านน้ำมันดิบของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียอีก หากซาอุดิอาระเบียยังไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารในเยเมน
...