ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2562

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีคำสั่งให้เลื่อนกำหนดวันขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเดิมจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ออกไปเป็นวันที่ 15 ตุลาคม ตามที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ขอให้เขาเลื่อนเวลา เนื่องจากวันที่ 1 ตุลาคม ตรงกับวันชาติจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวาระ 70 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และคำประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีขึ้นหลังจากที่จีนเพิ่งประกาศยกเว้นการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ 16 รายการออกไป 1 ปี ไปเป็นวันที่ 16 กันยายนปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ชี้ว่าเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่การค้าของจีนและสหรัฐฯ ยังเตรียมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้าในเดือนนี้ เพื่อเป็นการเตรียมประเด็นสำคัญที่จะนำเข้าหารือระหว่างผู้แทนการค้าของทั้ง 2 ประเทศในเดือนตุลาคม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความเห็นของประธานาธิบดีทรัมป์ ต่อธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุว่า เฟดควรประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อัตราที่ร้อยละศูนย์หรือน้อยกว่านั้น ทั้งควรจะรีไฟแนนซ์หนี้ใหม่ โดยสหรัฐฯ มีหนี้อยู่ 22 ล้าน 5 แสนล้านดอลลาร์ โดย 16 ล้าน 7 แสนล้านดอลลาร์เป็นหนี้สาธารณะ โดยเป็นภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น 2 ล้าน 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 13 ในสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วนหนึ่งเกิดจากการลดภาษีเมื่อปี 2560

ด้านนักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันจัดอันดับมูดี้ส์ อนาลีติกส์ ไม่สนับสนุนข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีเรื่องการลดดอกเบี้ยเหลือศูนย์หรือติดลบ เพราะจะทำให้ต้นทุนหนี้ถูกลงแต่ก็ทำให้เงินไหลเข้าสหรัฐฯ น้อยลงเนื่องจากความสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนยากขึ้น ซึ่งหากดอกเบี้ยติดลบเงินทุนจะไหลไปยังที่ที่นักลงทุนสามารถหาผลตอบแทนที่เป็นบวกได้ ส่งผลให้ภาคเอกชนมีการเติบโตชะลอตัวลง และจะเกิดความไม่แน่นอน

ส่วนสถานการณ์ในฮ่องกง สำนักงานตำรวจฮ่องกงออกประกาศห้ามจัดการประท้วงในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน นี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ หลังจากการชุมนุมที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ มีผู้ประท้วงที่จุดไฟเผาทำลายทรัพย์สินทางการและสาธารณะ ซึ่งตำรวจระบุว่าพื้นที่จัดการชุมนุมและเดินขบวนประท้วงที่ผู้จัดการชุมนุมประท้วงนำเสนอมาอยู่ใกล้สถานที่สำคัญซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงสูง ครอบคลุมถึงสถานีรถไฟใต้ดินคอสเวย์เบย์ สถานีหว่านไจ๋ สถานีแอดมิรัลตี สถานีเซ็นทรัล สำนักงานใหญ่ตำรวจย่านหว่านไจ๋ ศาลอุทธรณ์สูงสุดฮ่องกง ทำเนียบรัฐบาล และที่ทำการรัฐบาลกลาง เมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยของสาธารณะ รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนคนอื่นๆ จึงไม่อนุญาตให้มีการชุมนุม

อย่างไรก็ตามนายจิมมี ซัม แกนนำกลุ่มแนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเรือน ผู้จัดการประท้วง เปิดเผยว่าการชุมนุมในวันที่ 15 กันยายนนี้ จะเป็นการเรียกร้อง 4 ข้อที่ทางการฮ่องกงยังไม่ตอบรับ คือไม่เรียกการประท้วงของพวกเขาว่าเป็นการก่อจลาจล, อภัยโทษผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมทุกคน, ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการใช้ความรุนแรงของตำรวจ และให้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงและสมาชิกสภานิติบัญญัติ

ด้านเอ็มทีอาร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการระบบรถไฟใต้ดินในฮ่องกง ประกาศระงับการให้บริการรถไฟเที่ยวดึกในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน และ ค่ำวันเสาร์ที่ 14 กันยายน แต่จะเพิ่มเที่ยวรถไฟตั้งแต่เวลา 15.00 น. เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นเพราะต้องรีบเดินทางกลับที่หมายก่อนรถไฟหยุดให้บริการ

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงเป็นวันที่ 3 โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 55.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 60.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับความคืบหน้าเชิงบวกของการคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือร้อยละ 0.17 ปิดที่ 27,182.45 จุด

เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.64 จุด หรือร้อยละ 0.29 ปิดที่ 3,009.57 จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 24.79 จุด หรือร้อยละ 0.30 ปิดที่ 8,194.47 จุด

...